ยูริเซ็นรับพัสดุลงทะเบียนที่ไม่ได้ระบุชื่อผู้รับ แกะออกดูเห็นแผ่นซีดีก็ขมวดคิ้วเรียวสงสัย
พอดีวันนี้ไม่มีธุระที่ไหนก็เลยเปิดคอมดู
ภาพที่ปรากฎทำให้อารมณ์ที่สดใสขุ่นมัวทันที ก็ในจอคอมคือก้องภพที่ใส่ซะเต็มยศทำหน้ากะลิ้มกะเหลี่ยกับสาวน้อยหน้าสวยบนเวทีมวย
หล่อนไม่รู้ว่าที่ไหนเมื่อไหร่ รู้อย่างเดียวว่าโกรธที่ไอ้ตัวดีไม่ยอมทิ้งนิสัยเจ้าชู้ประตูดิน
ทั้ง ๆ ที่พร่ำบอกว่าเลิกแล้ว ๆ ทุกครั้งที่จับได้
เห็นแค่นี้ก็รู้ว่าไอ้ตัวแสบคิดอะไร ยูริที่มีนิสัยขี้หึงรุนแรงสรุปเสร็จสรรพ
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกแต่เป็นครั้งที่เท่าไหร่หล่อนก็คร้านที่จะจำ เพราะทะเลาะกันด้วยเรื่องนี้จนนับครั้งไม่ถ้วนแล้วก็จบลงที่การสัญญิงสัญญาว่าจะเลิกเจ้าชู้
แต่ภาพที่เห็นก้องภพท้าวแขนเงยหน้ามองส่งสายตาเจ้าชู้ให้สาวน้อยบนเวทีมวยยิ่งตอกย้ำความแค้นที่หล่อนทั้งรักทั้งทุ่มเทให้สุดหัวใจ
แต่สิ่งที่ก้องภพตอบแทนคือความไม่ซื่อสัตย์
“มันน่านัก” ยูริกัดฟันแน่นจนหน้าสวยเปลี่ยน
หยิบกุญแจรถปึงปังออกจากบ้านไปด้วยอารมณ์โกรธ....................รถเลี้ยวเข้าไปจอดใต้คอนโดอย่างรวดเร็วแต่ดูจะไม่ทันกับใจที่ร้อนรุ่ม
เธอปิดประตูรถดังปังรีบขึ้นไปข้างบนคอนโดทันที
ไขกุญแจห้องบุกเข้าไปในห้องนอนที่ก้องภพกำลังหลับสนิทหลังจากถูกพวกหม้ายดำปล่อยตัวกลับมาก่อนสว่าง
“นี่..นี่..ๆๆๆ”
ยูริกระโดดขึ้นไปบนเตียงทุบกำปั้นใส่ก้องภพที่งัวเงียสะลึมสะลือตื่น
“โอ๊ยยยย...ๆๆๆ..ทำไร..ริ..เดี๋ยยยววว..อู๊ยย..” ก้องภพร้องงงที่อยู่ ๆ ยูริก็ระดมพายุหมัดใส่อย่างบ้าคลั่ง แต่สาวสวยไม่สนใจตั้งหน้าตั้งตารัวหมัดใส่แฟนหนุ่มทั้งกระชากทั้งดึงผมจนก้องภพต้องผวาตามมือผ้านวมที่พันตัวอยู่หลุดลุ่ยจนร่างเปลือยที่เจ้าตัวนอนแก้ผ้าเป็นประจำจนล่อนจ้อนเย็นวาบจากลมแอร์
ร่างกายบึกบึนขาวสะอาดตามสไตล์หนุ่มตี๋กล้ามท้องหนั่นแน่นและพวงสวรรค์ที่ดกดำทะมึนด้วยหมอยหงิกงอหยาบกร้านกระจ่างแผ่รัศมีดึงดูดเพศตรงข้ามซึ่งถ้าเป็นยามปกติก็คงจะสร้างความวาบหวามรัญจวนแก่ยูริไม่น้อย
แต่สำหรับวันนี้ ยูริที่มีแต่ความโกรธไม่สนใจเหลือบแล มือยังขยุ้มจิกผมหนุ่มหล่อไว้ไม่คลาย ในขณะที่ก้องภพต้องงอตัวหงายตามมือเพราะยูริเตี้ยกว่า
“อ๊อยยย..ริ..มีอะไร..ค.คุยกันก่อ..นนน” ก้องภพร้องเจ็บตึงจากเส้นผมที่โดนรั้ง
“คุย...จะคุยอะไร...ไม่คงไม่คุยทั้งนั้น...มานี่เลยไอ้ตัวดี”
ยูริที่กลายร่างเป็นนางยักษ์ขมูขีตวาดแหว๋
ก้องภพยกมือสองข้างพยายามแกะมือแฟนสาวที่ตัวเล็กกว่าแต่ด้วยความรักจึงไม่กล้ารุนแรงดิ้นดุ๊ก
ๆ หมายตาเครื่องแบบที่พาดอยู่กับพนักเก้าอี้
กะว่าหลุดเมื่อไหร่ก็จะคว้าใส่แล้ววิ่งหนีไปตั้งหลักเพราะรู้ฤทธิ์แฟนสาวดี
ทำให้ยูริเห็นวงแขนที่ควรจะดกดำด้วยขนแห่งชายชาตรีที่ตอนนี้เหลือเพียงขนหร็อมแหร็มก็ยิ่งทำให้มั่นใจว่าคงไปทำอะไรพิเรนทร์
ๆ กับสาว ๆ แน่ ๆ
“หลักฐานชัดขนาดนี้ยังจะปฎิเสธอีกเหรอ...นี่” ยูริเพิ่มแรงหมุนบิดหูอีกสองรอบ
“โอ๊ยยยยย.....” ก้องภพร้องลั่นเขย่งขาตามมือที่ยกขึ้นสูง
แต่ยูริยังไม่หนำใจ กับไอ้คนเจ้าชู้แบบนี้ต้องทำให้สำนึก คิดพลางขยับนิ้วบิดหูเป็นเกลียวอีกรอบ
จนก้องภพต้องบิดตัวตามจนหน้าหล่อหันมาชนกับหน้าสวยซึ้งที่ส่งประกายตากราดเกรี้ยว
เช่นเดียวกับหน้าท้องขาวล่ำก็ประจันกับช่วงขาเรียวยาวสมส่วน
“ริ....ม..มีอะไรจ๊ะท..ที่รั...กกก...หลักฐา..านอะไร”
ก้องภพพูดตะกุกตะกักไม่แน่ใจในอารมณ์ของแฟนสาวแสนสวย
“ก็ขนจักแร้ทำไมหายไปเกือบเกลี้ยง
นี่ถ้าไม่เล่นวิตถารกับนังพวกนั้นขนจะหลุดลุ่ยอย่างนี้เหรอ” ก้องภพใจหายวาบ
ลืมไปเลยว่ากำลังโชว์วงแขนให้ยูริดูหลักฐานทนโท่
ไอ้ครั้นจะบอกว่าโดนพวกเกย์ในบาร์ถอนออกสถานการณ์ต้องแย่กว่านี้แน่ ๆ ขบคิดอย่างรวดเร็ว
“โธ่ริ..ใครจะทำอย่างนั้น...เมื่อคืนไม่รู้เป็นอะไรอยู่
ๆ ก็คันคะเยอมากไม่รู้แพ้อะไรเกาจนขนหลุดเลือดซิบ ต้องไปหาหมอละมั้ง” เขาโกหกทำหน้าออดอ้อนน่าสงสาร
“ดี..สมน้ำหน้าน่าจะดึงทิ้งให้หมดเลย” ยูริกระแทกเสียง แต่ก็รู้ว่าแฟนของตัวเองภูมิใจกับขนแห่งความเป็นชายแค่ไหนคงไม่เล่นพิเรนทร์อย่างนั้นคิดแล้วท่าทีก็ผ่อนคลาย ก้องภพเห็นเป็นจังหวะเหมาะจึงใช้มือลูบไล้เรียวขางามด้วยความเคยชินที่ใช้ได้ผลมาแล้วหลายครั้ง ยูริยิ้มน้อย ๆ แต่เป็นยิ้มในรอยแค้นที่ยังไม่กระจ่างกับคลิปปริศนานั่น
ซึ่งทำให้ก้องภพย่ามใจยิ่งลูบต้นขาขาวนวลหวังใช้เซ็กส์เป็นตัวประสานความเข้าใจ
แต่เขาคิดผิดถนัดเมื่อรอยยิ้มแสนหวานเปลี่ยนเป็นแสยะเหยียด
และก่อนที่จะรู้อะไรเป็นอะไรเข่าแหลมที่ชนะเลิศถ้วยมวยหญิงมาแล้วก็พุ่งเสียบลิ้นปี่อย่างจัง
“อ๊ออออออออกกก...” หนุ่มก้องภพตัวงอเป็นกุ้งสะท้านเฮือกหมุนตัวหนีตามสัญชาติญาณ
แต่แม่เสือสาวยูริฉวยโอกาสทองเตะซ้ายสูงดักหน้าหล่อดังพลั่ก
“โอ๊ยยย.....จะหนีไปไหน” เสียงร้องดังประสานกับเสียงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันของยูริก่อนจะเตะซ้ำที่หน้าท้อง
แล้วใช้เท้าขวาถีบตูดเปลือยเปล่าของแฟนหนุ่มถลาไปชนกำแพงห้อง
ก้องภพตอนนี้มีสภาพไม่ต่างกับลูกบอลที่โดนส่งไปส่งมาไม่มีเวลาพักหายใจ
พอหันหน้ากลับมาก็เจอเท้ายูริที่ยันพวงกระโปกพอดิบพอดี
“จะยอมรับผิดหรือยังไอ้ตัวดี” สาวสวยน่ารักตะคอกดังพร้อมกับเพิ่มแรงกด
“อ๊ากกกกกก” ก้องภพตัวสั่นเจ็บปวดไข่แฝดที่โดนจู่โจม
“รับผิดอะไร..เค้าไม่รู้” เขาบอกไม่เข้าใจว่าแฟนสาวพูดเรื่องอะไร
พอได้ฟังยูริที่โกรธอยู่แล้วก็ยิ่งโมโหเอื้อมมือไปข้างหลังควานหากระเป๋าถือจนเจอมีดพกที่ติดตัวเป็นประจำ
หล่อนกระชับมีดไว้ในมือเดินเข้าหาก้องภพที่ยืนตัวสั่นหลังพิงกำแพงทั้งรักทั้งเกรงใจทั้งกลัวแฟนตัวเอง
“รับผิดอะไร..เค้าไม่รู้” ยูริเลียนเสียงล้อเลียน ตวัดเท้าเตะพับในอีกทีก้องภพก็ทรุดฮวบก่อนจะตามมาใช้มีดจดจ่อไปที่ควยซึ่งตอนนี้หดจู๋หลบอยู่ในดงหมอยฟูฟ่องด้วยความหวาดกลัว
“อย่ามาปฎิเสธเลย
ก็เคยสาบานไม่ใช่เหรอว่าถ้าไม่เลิกเจ้าชู้จะยอมให้เจี๋ยน....” หล่อนกดคมมีดลงบนดุ้นควยจนก้องภพตัวเย็นวาบ
“ริ.....เค้าขอโทษ..ไม่ว่าเค้าทำอะไรผิด....เค้าขอโทษน้า” หนุ่มหล่อมาดแมนพรั่งพรูคำขอโทษออกมาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองทำอะไรลงไป
คำขอโทษอ้อนวอนดูเหมือนจะทำให้ยูริใจอ่อนลงเพราะคมมีดค่อยยกห่างจากผิวควย
ก้องภพระบายลมหายใจยาวโล่งอกขยับตัวลุกขึ้นจะเข้ามากอดแต่ยูริที่ยังไม่ไว้ใจกระโดดลุกขึ้นเตะปลายเท้าใส่ลูกกระโปกยานที่เป็นเป้าใหญ่เต็ม
ๆ
“อู๊ยยยยยย” ก้องภพตัวงออีกครั้งสองมือกุมเป้าก่อนจะโดนเข่าสาวกระแทกอัปเปอร์คัทจนดาวทองระยิบระยับเต็มฟ้า
ร่างกำยำหมุนคว้างคุกเข่าหันหลังให้กับแฟนสาวมือกุมหำหยีตาหน้าเบ้เจ็บจุกสุด ๆ
“เค้าขอโทษ...เค้าขอโทษ...ๆๆๆ”
ก้องภพพร่ำบอกประโยคเดิมอยู่อย่างนั้นเสียงสั่นระรัว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังนั่งคุกเข่าหันหลังให้ พอรู้ตัวก็รีบขยับหันหน้ามาในท่าคุกเข่าตามเดิม
แต่ปล่อยมือจากเป้าเปลี่ยนเป็นพนมมือแต้อ้อนวอนแทน
“นะริ..นะ...เค้าขอโทษ...ต่อไปจะไม่ทำอีกแล้วนะริ..ที่รักนะ....เค้าขอโทษ”
ก้องภพร้องขอน่าเวทนาไข่ที่เริ่มบวมเจ็บหน่วง
ๆ
แต่ยูริที่กำลังหน้ามืดเห็นช้างเท่าหมูไม่ฟังอีร้าค่าอีรมตวัดเตะส่งปลายเท้าเรียวผ่าหมากหนุ่มก้องภพสุดหล่ออย่างจัง
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก...กกกกก” ก้องภพร้องลั่นหงายหลังตึงตาตั้งชักกระตุก
สองมือที่พนมอ้อนวอนยังอยู่ในท่าเดิม
ยูริตามเข้ามาเหยียบยอดอก
“อูยยยยยย...ริ...พอเถอะ..เค้าขอร้อง”
ก้องภพที่ยังมีสติยกสองมือจับข้อเท้าขาวกลมกลึงไว้ทำตาละห้อย
กะถ่วงเวลาให้หายจุกเพราะเครื่องแบบอยู่แค่เอื้อมเท่านั้น ได้ผลยูริยกเท้าออก
ทันใดก้องภพเจ้าเล่ห์ก็พลิกตัวคว้าเสื้อผ้าลุกขึ้นวิ่งจู๊ดไปที่ประตู พอเปิดประตูได้ก็โกยแน่บทั้งที่แก้ผ้าล่อนจ้อนเอาเครื่องแบบตำรวจปิดควยเอาไว้
โดยมียูริถือมีดพกวิ่งตาม
“จะไปไหน
ไอ้ตัวดี..อย่าหนีนะ...” ยูริตะโกนไล่หลังตามไม่ลดละ
ก้องภพวิ่งผ่านผู้คนที่กำลังทยอยไปทำงานทั้งตกใจทั้งอายหน้าเหลือสองนิ้วโชว์ตูดขาวขยับซ้ายทีขวาทีตามก้าววิ่งเป็นเป้าให้โทรศัพท์หลายเครื่องกดชัตเตอร์กันอย่างสนุกท่ามกลางเสียงหัวเราะของทุกคนที่เห็นจำอวดรับวันใหม่
ก้องภพหอบแฮ่กวิ่งมาจนถึงมุมถนนไม่สนใจสายตาที่มองมา
เหลียวหลังมองเลิ่กลั่กเห็นยูริวิ่งตามมาไม่หยุดก็เหงื่อแตกวิ่งต่อฝ่าสายลมสายตาและเสียงหัวเราะขบขัน
เดชะบุญที่พอเลี้ยวหัวโค้ง มอไซด์ที่ปราการขับมีอติรุจซ้อนท้ายวิ่งผ่านมาพอดี
ปราการหยุดรถกึกยังไม่ได้ถามไถ่ก้องภพก็กระโดดขึ้นซ้อนเกาะเอวอติรุจไว้แน่น
“ออกรถพี่ชัช.....ด่วน” ก้องภพร้องบอกตื่นเต้นในขณะที่อติรุจเสียวแว๊บเมื่อร่างเปลือยของไอ้ว่านตัวแสบที่น่าระแวงประกบติด
ส่วนปราการก็บิดคันเร่งโดยอัตโนมัติ รถทะยานไปข้างหน้าผ่านยูริที่ยกมือชูมีดตะโกนไล่หลังด้วยเสียงด่าที่ค่อย
ๆ เลือนหายไป
“มึงทะเลาะอะไรกับยูริอีกวะไอ้ว่าน” อติรุจถามน้องเล็กที่รัดเอวแน่น
“ผมยังไม่รู้เลยพี่รุจ...อยู่ ๆ
ริก็มาอัดเอาอัดเอา
ดูดิหน้าบวมเลยเจ็บไข่สุด ๆ..”
ก้องภพบ่นอุบเจ็บหน่วง ๆ ที่ลูกกระโปกพูดแล้วก็ซบหน้ากับไหล่รุ่นพี่บอกให้รู้ว่าเจ็บจริง.....ไม่นานทั้งหมดก็ถึงโรงพัก
ก้องภพในสภาพเปลือยเปล่ากำลังจะวิ่งไปห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนเครื่องแบบ
เพื่อนตำรวจนายหนึ่งก็เดินมาแจ้งให้ทราบว่านายพลเลือดไทเรียกพบด่วน พลางมองก้องภพที่ยืนแก้ผ้าอล่างฉ่างหัวเราะขำ
ก้องภพใจหายวาบเพราะจุดที่ยืนห่างจากห้องน้ำตั้งไกลถ้าวิ่งไปในสภาพนี้ต้องถูกพบเห็นแน่นอน
แถมรถผู้มาติดต่อราชการก็เริ่มทยอยเข้ามาแล้ว
ทั้งสถานการณ์ทั้งเวลาไม่อนุญาตให้ขบคิดก็รีบคว้าเครื่องแบบมาจะสวม
แต่ก็ดันลืมหยิบกางเกงในมาด้วย ชายหนุ่มไม่สนใจรีบคว้ากางเกงสวมอย่างเร่งด่วนแต่ด้วยความรีบทำให้ซิปติดขนหมอยกระจุกใหญ่ที่เขาภูมิใจนักหนาแต่ตอนนี้กลับเป็นเครื่องหมายแห่งความอับอายเพราะหญิงสาวน่ารักสองคนที่เดินมาพอดีส่งสายตาขำหัวเราะที่เห็นนายตำรวจรูปหล่อกึ่งเปลือยยงโย่ยงหยกหน้าเหยกับซิปที่รูดไม่ขึ้น
ยิ่งทำให้ก้องภพหน้าแดงดึงดันรูดซิปแรงจนหลุดจากหมอยแต่ก็ดันมาติดหนังหุ้มปลายสะดุ้งเฮือกร้องเสียงหลง
“อ๊ากกกกกก..อูยยยยย.........” อติรุจกับปราการที่ทำตัวเป็นกำแพงบังให้หันมามองก็อดขำไม่ได้ในความซื่อบื้อของน้องรักต้องช่วยกันคนละมือปลดซิปออกจากหนังหุ้มกลิ่นคาวควยติดมือ
กว่าจะแต่งเสร็จก็ทุลักทุเลเต็มทน
ทั้งสามยืนตะเบ๊ะต่อหน้าผู้การเลือดไทที่เพ่งตามองก้องภพส่ายหัวเพราะสภาพเครื่องแบบที่ยับย่นเหมือนไปฟัดกับหมาที่ไหนมา
แถมกลิ่นตัวก็เหม็นหึ่งเพราะวิ่งเหงื่อแตกแถมไม่ได้อาบน้ำอีกต่างหาก แม้แต่อติรุจกับปราการก็รู้สึกเช่นกัน......................
มอเตอร์ไซด์จอดพรืดที่ลานจอดของโรงพยาบาลตำรวจ
อติรุจกับปราการในเครื่องแบบตำรวจเต็มยศ
อติรุจกับปราการรู้สึกแปลกใจที่ได้รับคำสั่งให้มาประชุมที่นี่ ทั้งยังรู้สึกเพลียจากเหตุการณ์เต้นโชว์และถูกรุมถอนขนเมื่อคืน
คิดถึงทีไรก็เสียววาบ เมื่อเช้าตอนอาบน้ำไม่เห็นขนกระโปกกับขนตูดก็รู้สึกหดหู่โหวงเหวงบอกไม่ถูก
การถูกพวกมันลูบคมให้เสียเชิงชายยังคุกรุ่นตอกย้ำอยู่ในอกตลอดเวลา
อยากจะลางานสักอาทิตย์เพื่อหลบหน้าผู้คนที่ป่านนี้คงรู้กันทั่วเรื่องเดินแฟชั่นโชว์กางเกงใน
แต่หน้าที่ก็คือหน้าที่เมื่อได้รับคำสั่งก็ต้องรีบมา
พลางหยิบแว่นตามาสวมพรางใบหน้า เช่นเดียวกับปราการเพราะตั้งแต่โชว์หราบนหน้าหนังสือพิมพ์พวกเขาก็กลายเป็นที่รู้จักชั่วข้ามคืน
การพรางตัวจึงน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในเวลานี้ รีบสาวเท้าไปยังห้องประชุมทันที
ส่วนก้องภพก็ติดรถมากับเพื่อนตำรวจเดินรั้งท้ายเจ็บลูกกระโปกจากโดนยูริยำ
แถมมาเสียวจากการเสียดสีกับชุดฟิตเปรี๊ยะโดยไม่ได้ใส่กางเกงในอีกจึงต้องเดินเข้าห้องประชุมด้วยขากาง
ๆ เหมือนขี้ติดตูด................ในห้องประชุมดูสบาย ๆ คล้ายมาคุยกันมากกว่า นั่งด้วยนายแพทย์ที่มียศตำรวจทั้งสิ้นสามนาย
ส่วนคนอื่นก็มีผู้การเลือดไท กัปตันอังเดร สายลับเหงียน ดุย โฮ
และนายตำรวจอีกสองนาย เมื่อนั่งลงเรียบร้อยการประชุมก็เริ่มขึ้น
“สวัสดีครับทุกท่าน
ผมต้องขอโทษด้วยที่ต้องเรียกประชุมโดยด่วน” หมอตำรวจวัยกลางคนท่าทางสุขุมเอ่ยต้อนรับ
“ผมทราบดีว่าขณะนี้ทางพวกคุณกำลังทำคดีใหญ่เกี่ยวกับการหายตัวไปขององค์รัชทายาทลิคเคนสไตน์
อาชญากรซึ่งเรียกตัวเองว่าแม่หม้ายดำมีวิธีการที่ยากต่อการรับมือ
กล่าวคือพวกมันเจาะจงทำลายขวัญด้วยการหยามเหยียดศักดิ์ศรีของตำรวจเรา
หนึ่งในนั้นก็คือการตัดองคชาติซึ่งปฎิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นการทำลายกำลังขวัญที่ทรงประสิทธิภาพอย่างมาก
แต่แม้ว่าพวกมันจะร้ายกาจเพียงใดในฐานะที่เป็นตำรวจคนหนึ่งผมจึงยอมไม่ได้ที่จะให้พวกมันมามีอิทธิพลเหนือจิตใจอันห้าวหาญของตำรวจไทย
ผมและนายแพทย์หนุ่มมากความสามารถคือ ร้อยตำรวจโทธรรม์ ธรรมากร ได้ทุ่มเทศึกษาวิจัยการผ่าตัดปลูกถ่ายเนื้อเยื่อที่ซับซ้อนจนเป็นผลสำเร็จรายแรกของโลก
ซึ่งผลงานวิจัยชิ้นนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากในการช่วยต่อองคชาติที่ถูกตัดให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติถึงเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ ฉะนั้นในฐานะหน่วยงานหนึ่งของกรมผมจึงใคร่ขอสร้างความมั่นใจแก่นายตำรวจที่ปฎิบัติหน้าที่ด้วยความยากลำบากทุกนายว่า
หากเหตุการณ์เลวร้ายที่ไม่มีใครอยากให้เกิด เกิดขึ้นด้วยเหตุสุดวิสัยใด ๆ ก็ตาม พวกผมพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ขอเพียงอวัยวะดังกล่าวถูกเก็บรักษาให้อยู่ในอุณหภูมิพอเหมาะก็เป็นอันใช้ได้” พูดจบ นายแพทย์หนุ่มวัยยี่สิบหกก็ยืนขึ้นแนะนำตัวเอง เขาเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีที่แฝงแววฉลาดเฉลียวรูปร่างสูงโปร่งภายใต้เสื้อกาวน์ดูแข็งแรงอย่างคนที่มีสุขภาพดีเยี่ยม
“สวัสดีครับ
ผมชื่อร้อยตำรวจโทนายแพทย์ธรรม์ ธรรมากร
ซึ่งเป็นหัวหน้าโครงการวิจัยเนื้อเยื่อนี้ครับ”
เขาโค้งตัวน้อย ๆ
รับเสียงปรบมือก่อนจะกลับไปนั่งตามเดิม.....หลังการประชุมซึ่งถือเป็นข่าวดีอย่างมากทำให้ทุกคนมีสีหน้าแช่มชื่นขึ้นหลังจากเจอแต่เรื่องร้าย
ๆ มาตลอด หนำซ้ำนายแพทย์ธรรม์ได้เข้าร่วมทีมคดีเจ้าชายมาร์ตินด้วยซึ่งถือเป็นโชคสองชั้นเพราะความสามารถของแพทย์หนุ่มคงจะช่วยคลี่คลายความซับซ้อนยุ่งยากในคดีได้ไม่มากก็น้อยซึ่งสร้างความอุ่นใจให้กับทีมเป็นอย่างมาก............................
“ผมโคตรเกลียดอีคุณหญิงสองแม่ลูกชิปเป๋ง.....รู้งี้เยี่ยวรดใส่หน้ามันด้วยก็ดี”
ก้องภพหัวเสียออกจากห้องผู้การเลือดไทพร้อมอติรุจและปราการ
“เอาน่าไอ้แสบ แค่อาทิตย์เดียวเอง” ปราการปลอบน้อง
“พี่ชัชกับพี่รุจไม่โดนก็พูดได้ซิ” ก้องภพตัดพ้อแต่ก็ต้องทำตามคำสั่ง
เขาต้องไปขอโทษอีนังคุณหญิงกับลูกสาวที่บ้านแถมต้องอยู่รับการอบรมถึงเจ็ดวัน นึกอิจฉาพี่ทั้งสองที่ผู้การเลือดไทไม่เอาเรื่องเพราะเห็นว่าเป็นแผนของพวกหม้ายดำ
แต่สำหรับอีนังคุณหญิงจอมโหดมันไม่เชื่อว่าทุกอย่างเป็นแผนของหม้ายดำจึงยืนกรานตามเดิม
คิดแล้วก็หน้าหงิกแต่นึกอีกทีก็ดีเหมือนกันถือโอกาสหลบหน้ายูริซักพัก เหลือบมองนาฬิกาเห็นได้เวลาก็กล่าวล่ำลาพี่ทั้งสองมุ่งหน้าไปบ้านผู้การเพลงรบอย่างเซ็ง
ๆ....................
ไม่นานก้องภพก็มาถึงบ้านผู้การเพลงรบเพื่อกราบขอโทษคุณหญิงกับลูกสาวคนสวย
สะพายกระเป๋าที่มีเสื้อไม่กี่ชุดเพราะผู้การเลือดไทอนุญาตให้ลาพักร้อนถึงเจ็ดวันเพื่ออยู่ที่นี่ตามคำขอของนังคุณหญิงโหดตัวร้าย
“มาแล้วเหรอนาย....อะไรนะ....” คุณหญิงรุจีถามนั่งไขว่ห้างพ่นบุหรี่นอกจากไปป์ยาว
ทรายทิพย์ลูกสาววัยสิบเจ็ดนั่งข้าง ๆ มองก้องภพที่ยืนตรงหน้าด้วยสายตาขุ่นเคือง
“ผมร้อยตำรวจโทก้องภพครับ...ผมขอโทษนะครับสำหรับเรื่องคืนนั้น” ก้องภพบอกนึกหมั่นไส้ในท่าทียโสของสองแม่ลูก
ยกมือไหว้เอ่ยขอโทษที่ไม่ได้มาจากใจ
“อ๊ะ ๆ..อย่าเพิ่ง” นังคุณหญิงรีบห้าม
“จะขอโทษทั้งทีมันก็ต้องมีพิธีกันหน่อยสิหมวด....ชั้นเป็นถึงคุณหญิงนะจะมาทำอะไรลวก
ๆ แบบนี้ได้ยังไง”
“แล้วคุณหญิงจะให้ผมทำยังไงถึงจะพอใจ” ก้องภพตอบโต้เสียงแข็งไม่พอใจ
“นายก็ต้องถือพานดอกไม้ธูปเทียนคุกเข่าคลานเข้ามาขอขมาสิยะ..ไม่ใช่มายืนค้ำหัวโด่อย่างนี้” สาวใหญ่พูดสะใจ พูดเสร็จแจ๋วสาวใช้วัยสิบห้าก็ยกพานดอกไม้ธูปเทียนเข้ามาจริง
ๆ
“มันไม่เกินไปหน่อยเหรอครับ” ก้องภพเลือดขึ้นหน้า
“นายจะทำหรือไม่ทำ ถ้าอยากลองของก็เอา” คุณหญิงตอบไม่สะทกสะท้าน
ด้วยบารมีพ่อหล่อนมีเหรอไอ้หมวดกระจอกจะกล้าหือ
แล้วก็เป็นอย่างที่หล่อนคิดจริง ๆ หลังจากขบคิดใคร่ครวญถึงผลที่จะตามมาอย่างรอบคอบ ก้องภพที่โกรธจนหน้าชากำมือแน่นจากการโดนหยามก็ค่อย
ๆ ทรุดตัวลงจนอยู่ในท่าคุกเข่า รับพานดอกไม้ไว้ก้มหน้าไม่มอง
ยกพานสูงเหนือหัวคลานเข่าเข้าไปหาอีคุณหญิงที่นั่งไขว่ห้างยกพัดจีบโบกสะบัดทำท่าราวนางพญา
“ผมขอโทษครับ” ก้องภพกล้ำกลืนฝืนทนสุด ๆ
“พูดดัง ๆ ชั้นไม่ได้ยิน” นังคุณหญิงแกล้งต่อ
“ผมขอโทษครับ” เสียงดังฟังชัดเจน
“เอาใหม่” คุณหญิงรุจีทำท่าไม่พอใจขยับเปลี่ยนเท้า
ก้องภพพูดขอโทษคำเดิมอีกหลายครั้งก็ยังถูกปฎิเสธ จนเปลี่ยนคำพูดที่คิดว่าอีคุณหญิงคงอยากได้ยิน
“ผมร้อยตำรวจโทก้องภพ แสนจรัส กราบขอขมาคุณหญิงและคุณหนู
ขอให้ยกโทษให้ผมด้วยครับ” ก้องภพหน้าชาวาบแดงก่ำด้วยความอับอายไม่เคยเสียเหลี่ยมขนาดนี้มาก่อน
แม้ไม่เห็นสีหน้าท่าทางแต่ก็เดาได้ว่าอีสองแม่ลูกคงแสยะยิ้มเหยียดเขาเต็มที่สะใจสุด
ๆ
“เอาละ....ลุกขึ้น...ชั้นให้อภัยนายก็ได้..แต่นายต้องอยู่บ้านนี้เจ็ดวันในฐานะคนใช้
และก็ไม่มีสิทธิ์ใช้โทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์ที่บ้านก็ห้ามใช้
เริ่มแรกเลยนายดูห้องรับแขกนี่สกปรกมาก ไปเอาผ้ามาถูให้สะอาด” คุณหญิงพูดยิ้มสะใจ
“อะไรกันครับ...ไหนว่าจะอบรม.ไหงผมต้องมาเป็นคนใช้ละ...แล้วเรื่องโทรศัพท์อีก
ผมไม่ใช่ทาสของคุณหญิงนะครับ”
ก้องภพเถียงสงสัยหันไปมองอีคุณหนูก็ทำลอยหน้าเบะปากสะใจไม่แพ้ตัวแม่ก่อนจะลุกขึ้นสะบัดก้นเดินออกไป
“นี่ละวิธีอบรมของชั้น..อย่าเรื่องมาก” สาวใหญ่ตัดบท แจ๋วที่ถูกสั่งก่อนหน้าเอาผ้าถูพื้นมาให้
ก้องภพจำใจรับผ้าไว้ส่งมอบโทรศัพท์มือถือให้แจ๋ว แล้วคุกเข่าเริ่มถูไม้ปาเก้โดยมีคุณหญิงนั่งดู
การทำความสะอาดบ้านเป็นเรื่องปกติของชายโสดอยู่แล้วจึงทำให้งานถูบ้านไม่ใช่ปัญหา
จะเป็นปัญหาก็ตรงที่อีห่าคุณหญิงแม่งเดินไปบริเวณที่เพิ่งถูเสร็จแล้วแกล้งเขี่ยขี้บุหรี่ทิ้งเรี่ยราด
“อุ๊ยตาย...ซอรี่..นี่ ๆ
ตรงนี้ยังมีเศษขี้บุหรี่อยู่”
คุณหญิงร้องบอกหัวเราะ
ก้องภพก็รู้ว่าโดนแกล้งทำท่าฮึดฮัดแต่ก็ไม่โวยวาย
หมุนตัวถูตรงโน้นตรงนี้จนหัวปั่นโดยมีแจ๋วเด็กรับใช้ที่เริ่มเป็นสาวต้องใจในความหล่อเหลาของเพศตรงข้ามแอบมองหัวเราะคิกคัก
ๆ กว่าจะเสร็จถูบ้านมาราธอนก็เล่นเอาหอบ
คุณหญิงรุจีเมื่อแกล้งจนสะใจก็ขึ้นข้างบนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะนึกได้ว่ามีธุระ
แต่ก่อนไปก็สั่งงานอีกหลายอย่างให้ก้องภพ...................ก้องภพเดินสะโหลสะเหลจะกลับห้องพักที่อยู่ปะปนกับเรือนคนใช้หลายหลัง
ก็พอดีเจอคุณหนูคนสวยกับเด็กอีกสองคนกำลังมุงดูอะไรอยู่
พอเดินเข้าใกล้ถึงเห็นว่าเด็กสองคนนั้นหนึ่งคือเด็กสาวรุ่นเดียวกับคุณหนูแสนสวย
อีกคนเป็นกระเทยหัวโปกคงเป็นเพื่อนก๊วนเดียวกัน สิ่งที่ทั้งหมดกำลังรุมดูก็คืองูเหลือมตัวยาวประมาณเมตรซึ่งสำหรับงูชนิดนี้ถือว่าเป็นลูกงู นี่ถ้าไม่เหนื่อยเกินไปพ่อขุนแผนก้องภพคงเดินเข้าไปแซวแล้ว
แต่หลังจากถูบ้านจนเหนื่อยก็อยากพัก ก้าวถอยหลังกะเดินอ้อมไปอีกทางแต่ถูกเรียกไว้
“มาพอดีเลย...นายก้องภพ..มานี่” ก้องภพชะงักเดินเข้ามาตามคำเรียก
“มีอะไร” เขาพูดเสียงแข็งซึ่งผิดกับนิสัยเจ้าชู้ทะเล้น
แต่ด้วยความไม่พอใจทำให้แสดงกริยาแบบนี้ออกมา
คุณหนูทรายทิพย์ที่ได้นิสัยแม่มาเต็ม ๆ ก็โกรธ
เรื่องที่โดนน้ำเงี่ยนฉีดใส่หน้ายังทำให้หล่อนแค้นยืนตัวสั่น
“อ๋อ..เนี่ยเหรอพ่อหมวดหนุ่มที่หล่อนเล่าให้ฟัง...หล่อไม่ใช่เล่นเลยนะ” กระเทยอายุซักสิบหกสิบเจ็ดเอ่ยขัดจังหวะ
เดินเข้ามาสำรวจตำรวจหนุ่ม และด้วยสายตาช่ำชองมองปร๊าดเดียวก็รู้ว่าหมวดสุดหล่อไม่ได้ใส่กางเกงใน
กลอกตาเล็กน้อยก่อนจะเอามือจับเป้าก้องภพดังควั่บ
“เฮ้ยยยย” ก้องภพกระโดดถอยหลังตะลึงไม่รู้จะทำอะไรต่อ
“นังทราย..ชั้นจับดูแล้วไม่เห็นจะใหญ่อย่างที่หล่อนบอกเลย” เด็กกระเทยต่อว่าเพื่อนสาว
ก้องภพหน้าแดงที่โดนกระเทยแปลกหน้าพูดถึงตัวเองเกี่ยวกับขนาดความเป็นชาย
“แกหาว่าชั้นโกหกเหรอนังเบ๊นซ์...ชั้นคงไม่เยินยอไอ้คนที่ฉีดน้ำเงี่ยนใส่หน้าหรอกนะ”
ทรายทิพย์เถียงเพื่อนพูดจาหยาบคายซึ่งก้องภพเองก็คิดไม่ถึงว่าคุณหนูแสนสวยจะกล้าขนาดนี้
“มีอยู่ทางเดียวเท่านั้นก็คือพิสูจน์ให้เห็นกันไปเลย”
สาวน้อยอีกคนเสนอความเห็นเพราะพอใจในความหล่อเหลาของก้องภพ
“เยี่ยมเลยนังจอย...ไอเดียแกเด็ด” กระเทยเบ๊นซ์ดีดนิ้วเปาะโยกหัว
ก้องภพเผลอถอยหลังเมื่อได้ยินทั้งอายทั้งโมโหที่โดนเด็กรุ่นหลังหยามศักดิ์ศรี
แต่ก็ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงหันกายจะจากไป
“นายจะไปไหนไม่ได้....ถ้าไม่ถอดกางเกงโชว์ควยให้ชั้นกับเพื่อนดูก่อน” ทรายพูดไม่กระดากปากเอาไม้กดงูเหลือมที่จับได้ดิ้นไปดิ้นมาบนพื้น
“ไม่มีทาง...” ก้องภพพูดเดินหนี
“ถ้านายไม่ทำชั้นจะบอกคุณแม่ว่านายลวนลาม...ชั้นมีพยานตั้งสองคน..ส่วนนาย..ฮึ..”
สาวน้อยเจ้าเล่ห์ขู่นายตำรวจหนุ่มที่ผ่านศึกมาอย่างโชกโชนด้วยคำขู่ที่ดูจะมีน้ำหนักไม่น้อย
ก้องภพสะอึกแม้จะไม่ค่อยปราดเปรื่องเท่าไหร่แต่เขาก็รู้ว่าเสียเปรียบเต็มประตู
คิดไปคิดมาก็อยากจะกู้ศักดิ์ศรีคืนเห็นว่าไม่เป็นไรก็ตอบตกลง
“ได้...อยากดูก็จะให้ดู” เขาปลดเข็มขัดถอดกางเกงออก
ควยทั้งยวงก็หลุดเผละออกมาเพราะไม่มีกางเกงในห่อหุ้ม
“ต๊ายตาย...เซ็กส์อะ..ไม่ใส่กางเกงในด้วย” นังเบ๊นซ์กระเทยหัวโปกวี๊ดว้ายจ้องตาเขม็ง
เช่นเดียวกับสาวจอยที่มองตาเป็นมัน เลื่อนสายตาขึ้น ๆ ลง ๆ ระหว่างควยกับพงหมอยดำที่แผ่กว้างเต็มง่ามขาแกร่ง
พอให้ดูเสร็จก้องภพก็ถลกกางเกงจะใส่ตามเดิมแต่กระเทยเบ๊นซ์ห้ามเสียงแหว
“อย่าเพิ่งเก็บนะ...นี่มันยังอ่อนอยู่
ขอดูตอนแข็งได้ไหม..ผู้หมวด” กระเทยสาวหยอดเสียงเซ็กส์ขอดูดื้อ
ๆ ก้องภพหน้าชาวาบนึกไม่ถึงว่าจะต้องมาปั่นควยให้เด็กสาวกับกระเทยดู
แต่พอโดนสำทับด้วยคำขู่ของลูกสาวผู้บังคับบัญชาก็ไม่มีทางเลือก
ขยับท่ายืนทะมัดทะแมงเอามือจับควยแล้วเริ่มถอกจนหัวบานโผล่จากหนังหุ้ม
ไม่นานด้วยวัยฉกรรจ์อยู่ในภาวะเจริญพันธุ์ควยก็เริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
จนแข็งปั๋ง เขาหยุดโดยอัตโนมัติเพราะความเสียวเริ่มมากขึ้นจนเกือบถึงจุดสุดยอดแต่ควยก็โด่ได้ที่กระดกหงึก
ๆ ต่อหน้าสองสาวกับหนึ่งกระเทย
“อือออ...ใหญ่ใช้ได้แต่สั้นไปหน่อย ควยที่ชั้นเห็นสั้นสุดก็ประมาณเจ็ดนิ้ว
ของหมวดนี่ไม่ผ่านสเปคชั้น แต่หมอยดกดีชอบ ๆ”
กระเทยเบ๊นซ์ชี้ชวนเพื่อนดูควยตรงหน้าวิจารณ์กันสนุกปาก