Saturday, 28 July 2018

สามสิงห์สยบไพรี ตอนที่ ุ6


ปราการโซซัดโซเซมาถึงชั้นล่าง ผ่านรถที่จอดอยู่อย่างงง ๆ เขามึนมากเรื่องขับรถกลับลืมไปได้เลย  ดีที่อีอาจารย์ตุ๊ดไม่ตามมาไม่งั้นอาจจะไม่โชคดีอย่างนี้ คิดแล้วก็เสียวตูดวาบขึ้นมาโดยอัตโนมัติ โบกมือเรียกแท๊กซี่ ประสบการณ์น่าหวาดหวั่นยิ่งตอกย้ำความรู้สึกแหยงกระเทยให้มากขึ้นไปอีก....................
ปราการไม่กล้าไปพบจุ๊บที่ห้องสมุดอีกเลยเพราะไม่กล้าสู้หน้าอาจารย์ติ๊ดตี่ วันที่จุ๊บให้ไปรับกลบทที่ถอดความได้ก็ให้อติรุจไปรับแทนพร้อมกับขับรถที่จอดไว้กลับมาด้วย  อติรุจที่ฉลาดรอบคอบก็ถือโอกาสศึกษาการถอดกลบทจากจุ๊บด้วยเผื่อไว้ใช้ในอนาคตซึ่งพอรู้หลักการคร่าว ๆ ก็ไม่ยากเกินความสามารถ  เขารีบเอากลบทมาเข้าที่ประชุมทันที
“สามสิงห์สยบไพรีศักดิ์ศรีหยิ่ง                    เยี่ยมจริงจริงเสาะหามาถึงนี่
อย่ารอช้ารีบหนาอย่าพาที                             คิดให้ดีที่ไหนไขแสดง
อย่างที่บอกสถานที่ไม่ไกลนัก                      ใช้เก็บดักแปดขาน่าแขยง
เมื่อรู้แน่กล้าก็บุกรุกด้วยแรง                         เชิญสำแดงฝีไม้ให้ระบือ
หากรักตัวกลัวตายวายชีวาตม์                       จิตเขลาขลาดหวาดผวาไม่กล้าหือ
ก็อย่าหาญรบท้ามาประมือ                            เพราะกูคือยมบาลผลาญวิญญา
จงหลุบหางไสหัวกลัวตัวสั่น                        ไม่มาดมั่นสมชายกลายเป็นหมา
สามสิงห์ร้ายใจสตรีมีมารยา                         ไร้ราคาชาติหมาหน้าตัวเมีย”  คือกลอนกลบทที่ถอดความได้
“มันหยามพวกเรามากนะครับท่าน”  ก้องภพเลือดขึ้นหน้าเมื่ออ่านจบ เพลงรบสีหน้าเคร่งเครียดหันไปถามอติรุจ
“คุณคิดว่ายังไง” 
“ผมว่าความหมายมันชัดเจนมากครับ สถานที่ที่พวกมันบอกก็คือที่ไหนสักแห่งที่มีพวกแมงมุมหรือแมลงต่าง ๆ แต่ผมว่ามันน่าจะเป็นหลุมพรางเพราะว่ามันง่าย ดูจงใจเกินไป”  อติรุจอธิบาย  เหงียนดุยโฮที่นั่งฟังอยู่ด้วยเห็นเป็นโอกาสก็โพล่งขึ้นด้วยแผนการที่ได้รับจากหม้ายดำ
“ใช่ครับผมเห็นด้วยกับผู้กอง......ในระหว่างที่ถูกพวกมันควบคุมตัว เคยได้ยินมันพูดถึงสถานที่อะไรซักแห่งที่ไม่น่าจะเกี่ยวกับแมลงหรือแมงมุมอะไร เสียดายที่จับใจความได้ไม่ถนัด”  เหงียนดุยโฮตบตาแนบเนียนทำให้ที่ประชุมเกิดความลังเล  ข้อมูลที่ช่วยอติรุจได้อย่างหวุดหวิดในคืนนั้นปกปิดร่องรอยที่น่าสงสัยไปหมดสิ้น แม้กระทั่งกัปตันอังเดรที่ฉลาดรอบคอบยังนึกไม่ถึง แถมการสูญเสียลูกอัณฑะไปหนึ่งข้างก็ยิ่งสร้างความน่าเห็นใจน่าเชื่อถือขึ้นไปอีก ทั้ง  ๆ ที่รูปการณ์ไม่ต่างจากตอนริสาแม้แต่น้อย ซึ่งถ้ามองให้ลึกซึ้งก็น่าจะเห็นความไม่ชอบมาพากลอยู่ เหงียนดุยโฮลอบถอนหายใจรู้สึกผิดที่จะพาพวกสามสิงห์ไปติดกับ  แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำตามพวกมัน เขาถูกหม้ายดำควบคุมด้วยวิธีที่พิสดารคาดไม่ถึง ในตัวถูกฝังไมโครชิพเม็ดเล็กเท่าถั่วเขียวซึ่งเป็นทั้ง GPS (Global Positioning System) และตัวรับสัญญาณไฟฟ้าแรงสูงผ่านดาวเทียม เคยคิดจะบอกกัปตันอังเดรแต่ก็ไม่กล้าเสี่ยง ชีวิตเขาเหมือนถูกแขวนบนเส้นด้าย ถ้าหม้ายดำรู้ว่าตุกติก ยังไม่ทันเอาชิพออกเขาก็เกรียมเป็นตอตะโกแล้ว หนำซ้ำเขาก็ไม่รู้ว่าไอ้ชิพบ้า ๆ นี่ฝังอยู่ส่วนไหนของร่างกาย จากความเหี้ยมโหดของพวกมันทำให้เขาไม่กล้าเสี่ยงแม้แต่จะคิด....................... พอฟังคำพูดเหงียน ที่ประชุมก็เงียบกริบ อติรุจมองสายลับเวียดนามทบทวนคำพูดอย่างลึกซึ้ง ก่อนหน้าที่จะเข้าประชุม จากข้อมูลที่ได้รับมีตึกร้างที่เคยเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์แมลงเอกชนแต่ปิดตัวไปแล้วไม่ไกลจากสถานีตำรวจ กับอีกแห่งคือไนท์คลับ BLACK WIDOW  ซึ่งแปลตรงตัวว่าแมงมุมแม่หม้ายดำ  ด้วยกำลังที่มีทำให้ไม่สามารถส่งหน่วยจู่โจมไปยังสองเป้าหมายได้ หลังจากทบทวนอย่างรอบคอบแล้ว ผู้การเพลงรบก็ตัดสินใจที่จะจู่โจมตึกร้างตามคำกลอนแทนที่จะส่งกำลังหลักไปไนท์คลับแม่หม้ายดำ เพราะมั่นใจว่าหม้ายดำเล่นสงครามประสาท ใช้ความหมายของคำกลอนที่ชัดเจนตรง ๆ วางกับดักซ้อนกับดักแต่ก็ยังส่งตำรวจสี่นายไปซุ่มดูที่ไนท์คลับดังกล่าวด้วย  เหงียนดุยโฮหน้าซีดเมื่อแผนไม่เป็นไปตามแผนที่หม้ายดำคาดการณ์  ด้วยความเชื่อมั่นในตัวเองและแผนของนกต่อเหงียนดุยโฮ  หล่อนคิดว่าพวกสามสิงห์จะต้องบุกไนท์คลับ BLACK WIDOW อย่างแน่นอนจึงได้วางกับดักรอรับอย่างแน่นหนา ในขณะที่ตึกร้างไม่มีการเตรียมการใด ๆ มีเพียงการลาดตระเวนปกติเท่านั้น  เหงียนกลืนน้ำลายอดห่วงความปลอดภัยของตัวเองไม่ได้ จะส่งข่าวให้หม้ายดำก็ไม่มีโอกาสเพราะเป็นการจู่โจมแบบสายฟ้าแลบ.....................ภายในห้องใต้ดินตึกร้าง ศาสตราจารย์ฟิลลิปง่วนอยู่ในห้องปฎิบัติการโดยมีมุกประดับคอยดูอย่างสนใจ
“ยาสูตรระทึกโลกสำเร็จร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วครับนายหญิง” ฝรั่งแก่ชี้ไปยังโถแก้วซึ่งบรรจุน้ำสีม่วงจาง ๆ ไว้เต็ม
“ผมจะรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งถ้านายหญิงจะตั้งชื่อยาตัวนี้นะครับ”  ฟิลลิปพูดนอบน้อม
“ได้สิคะ”  มุกประดับยิ้มสดชื่น หล่อนให้ความสำคัญกับด๊อกเตอร์จริง ๆ
“ยาตัวนี้ทำให้ผู้เสพที่เป็นชายมีอารมณ์ทางเพศสูงสุด แต่ต้องได้รับน้ำอสุจิถึงสามน้ำจึงจะถอนพิษยาได้”  หล่อนเอียงหน้าขบคิดเล็กน้อย ยิ้มเมื่อนึกอะไรได้
“สามสวาทละกัน...ชั้นขอตั้งชื่อยานี้ว่า  “ยาสามสวาท”  คะด๊อกเตอร์” 
Very good  ดีมากเลยครับนายหญิง”  ด๊อกเตอร์ฝรั่งตบมือเห็นด้วยที่ชื่อยาตรงตามคอนเซ็ปต์ ทั้งคู่พูดคุยกันอีกหลายเรื่องจนมุกประดับที่อารมณ์ดีเป็นพิเศษถาม
“แล้วด๊อกเตอร์อยากได้อะไรคะ  บอกมาได้เลย ชั้นจะสมนาคุณที่คิดยาได้สำเร็จ”
“คือผม..อย่างที่นายหญิงรู้ว่าผมมีความต้องการที่ไม่เหมือนชายทั่วไป  ผมอยากให้นายหญิงจับตัวชายหนุ่มในรูปนี้มาทีครับ”  มุกประดับรับรูปชายหนุ่มหน้าตาดีในชุดเสื้อกาวน์มาดู
“นายคนนี้ชื่อธรรม์ครับ  เป็นทั้งตำรวจทั้งหมอมากความสามารถลูกศิษย์ผมเอง แต่ตอนนี้ความเป็นศิษย์อาจารย์ขาดไปนานแล้วครับ”
“ได้ซิคะ”  หล่อนพูดราวกับว่าเป็นเรื่องง่ายดายเหลือเกินหัวเราะเบา ๆ  แต่ยังไม่ทันไร เสียงปืนดังสนั่นก็แว่วจากด้านบน ยิ่งใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ มุกประดับไม่เสียทีที่คุมแก๊งค์แม่หม้ายดำ ประสบการณ์ที่หล่อหลอมตัวเธอจนแกร่งกล้าไม่ลนลาน ผลักโถแก้วที่บรรจุยาสามสวาทอยู่เต็มล้มแตกกระจายไหลลงไปในท่อน้ำทิ้งจนหมดสิ้น  ด๊อกเตอร์ยืนตาค้างแต่ก็ชื่นชมในความเด็ดเดี่ยวของเธอ ตราบใดที่ยังมีลมหายใจยาสามสวาทจะผลิตอีกเท่าไหร่ก็ย่อมได้ ดีกว่าถูกพวกตำรวจสืบสาวถึงแผนการใหญ่  ชายฉกรรจ์สี่คนคุมหน้าหลังรีบพาหล่อนกับด๊อกเตอร์หนีไปทางอุโมงค์ที่ทอดยาวไปยังตึกข้าง ๆ ห่างออกไปเกือบร้อยเมตร กว่าพวกตำรวจจะเจออุโมงค์มุกประดับกับด๊อกเตอร์ก็หายสาบสูญจนไร้ร่องรอยแล้ว....................ไม่เพียงไม่พบร่องรอยคฤหาสน์หลังใหญ่ที่กษัตริย์วาดิมสืบทราบว่าเป็นแหล่งกบดานของหม้ายดำก็ถูกโยกย้ายไปที่ใหม่ มุกประดับไม่ใช่สาวน้อยอ่อนต่อโลกเช่นในอดีต  หล่อนแกร่งกร้าวจนผู้ชายอกสามศอกยังต้องสยบแทบเท้า ยิ่งจิตใจที่ลึกซึ้งเยือกเย็นราวอสรพิษด้วยแล้วก็ทำให้พวกสามสิงห์และตำรวจหัวปั่นต้องทำงานหนักแข่งกับเวลา  แต่อย่างน้อยตึกร้างที่ถูกทลายก็เป็นแหล่งเก็บยาเสพติดหลายล้านเม็ด พวกลูกน้องหม้ายดำถูกวิสามัญไปถึงสิบสองคนนับเป็นผลงานชิ้นโบว์แดง ผู้การเพลงรบกับทีมสามสิงห์ได้รับคำชื่นชมจากผู้ใหญ่อย่างมาก.................
“กูยังให้คำตอบไม่ได้วะ...ยังไม่ได้บอกเมียเลย...แล้วมึงทำไมพึ่งโทรมา.น่าจะบอกล่วงหน้า มึงก็รู้ว่ากูยุ่งกับคดีหม้ายดำอยู่”  ผู้การเพลงรบคุยโทรศัพท์กับเพื่อนที่โทรมาชวนไปงานเลี้ยงรุ่น
“ไอ้รบมึงนี่จริง ๆ กลัวเมียไม่หาย...เพื่อน ๆ เค้ารอมึงคนเดียว...หรือจะให้กูขอเมียมึงให้ ฮ่า ๆๆ”  เพื่อนปลายสายเหน็บเบา ๆ ในที่สุดเพลงรบก็โดนยั่วไม่ไหวตกปากรับคำเพื่อนนัดไปเลี้ยงที่อาบอบนวดซึ่งเป็นของคนคุ้นเคย.....................ก้องภพหงุดหงิดงุ่นง่านหลังจากถูกยิริแฟนสาวปฎิเสธที่จะมีอะไรด้วย นั่งหน้าหงิกหยิบโทรศัพท์โทรตามพี่ชายทั้งสองจะชวนไปปล่อยอารมณ์ที่อาบอบนวดเจ้าประจำ  หลังจากคะคั้นคะยอพักใหญ่อติรุจกับปราการที่ทนรบเร้าไม่ไหวกอปรกับรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อทลายแก๊งค์หม้ายดำลงได้ก็ตอบตกลง  ซึ่งอติรุจก็ดีใจหายออกปากว่าจะเลี้ยงเพื่อตอบแทนที่ช่วยเหลือคืนนั้น 
“ยอดเลยพี่รุจ....พี่รุจสุดหล่อ..ไชโย ๆๆ”  ก้องภพกระโดดโลดเต้นเหมือนเด็ก บีบนวดต้นคออติรุจเล่นแทนคำขอบคุณ
“พอ..ๆๆ..ไอ้ว่าน...กูว่าให้พวกหมอสาว ๆ นวดจะดีกว่า..จั๊กจี้...อึ๋ยยยสส์”  อติรุจเขย่าตัวทำท่าสยิว คำพูดที่ดูตลกในสายตาปราการและก้องภพเรียกเสียงฮาได้เป็นอย่างดี แต่อติรุจรู้ดีว่าคำพูดเขาหมายความอย่างนั้นจริง ๆ...............อติรุจขับรถพาเพื่อนรักมายังอาบอบนวดเจ้าประจำที่เขาเลิกเที่ยวนานแล้ว เขาแปลกใจที่เฮียหมูซึ่งเป็นเจ้าของคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีอยู่ที่ลานจอดรถกำลังต้อนรับใครอยู่ และต้องแปลกใจยิ่งขึ้นเมื่อเห็นผู้การเพลงรบเจ้านายของตนก้าวลงจากรถ ทั้งสามพยายามจะหลบแต่ก็ไม่ทัน
“อ้าวผู้กอง...ไม่นึกว่าจะเจอกันที่นี่”  ผู้การเพลงรบเดินเข้ามาทักก่อน อาจจะเป็นเพราะหลบไม่ทันเช่นกันจึงวางท่าทักลูกน้องเพื่อกลบเกลื่อนความอิหลักอิเหลื่อ
“ผู้การรู้จักพวกผู้กองเหรอครับ ถ้างั้นก็คนกันเองทั้งนั้น...คืนนี้ผมขอเป็นเจ้ามือแล้วกันครับ”  เฮียหมูตามมาสมทบเอ่ยปากต้อนรับเต็มที่  แล้วทั้งหมดก็เดินเข้าไปในอาคารที่ตกแต่งอย่างมีรสนิยม  สาว ๆ หน้าตาจิ้มลิ้มในชุดวาบหวิวนั่งอยู่ในตู้กระจกมากมาย  แต่เฮียหมูนำนายตำรวจระดับสูงเข้าไปด้านใน
“ผมได้จัดสาว ๆ เตรียมไว้แล้วครับท่าน”  เฮียหมูบอกเพลงรบ  แต่พวกอติรุจกลับขอเลือกสาว ๆ เอง โดยเฉพาะก้องภพรีบเลือกจนได้ถูกใจ หายเข้าไปในห้องก่อนเพื่อนเพราะความเงี่ยนที่ไม่ได้ระบายอัดแน่นจนจะล้นอยู่แล้ว..........ผู้การเพลงรบนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวนอนรออยู่บนเตียง นานแล้วที่ไม่ได้เที่ยวแบบนี้ ความรู้สึกคึกคักตื่นเต้นก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว เขากับเพื่อน ๆ นัดแนะกันว่าหลังจากนวดเสร็จค่อยไปกินเลี้ยง ป่านนี้พวกเพื่อน ๆ ก็คงกำลังขึ้นสวรรค์เป็นแน่ รวมทั้งผู้กองอติรุจทั้งสามด้วย  ทันใดประตูห้องก็ถูกเคาะเบา ๆ เพลงรบเดินไปเปิดประตูแล้วก็ต้องตกตะลึงนะจังงัง เด็กที่เฮียหมูส่งมาสวยอย่างกับเทพธิดา สวยสูงสง่าเกินกว่าจะเป็นหมอนวด เขากระพริบตาถี่ ๆ ควยใต้ผ้าขนหนูลุกพรึ่บทำความเคารพความสาวความสวยทันที
“ชื่ออะไรจ๊ะน้องสาว”  เพลงรบหว่านเสน่ห์ใบหน้าหล่อคมเข้มแบบไทย ๆ ทำเอาสาว ๆ ใจละลายมานักต่อนัก
“มุกคะ”  หญิงสาวตอบเบา เสื้อคลุมสีดำพริ้วไสวเผยชั้นในสีดำที่ลึกลับน่าค้นหา เพลงรบกลืนน้ำลายก้อนใหญ่พยายามควบคุมความรู้สึกทางเพศที่ลุกฮือโหม เบี่ยงตัวเปิดทางให้สาวน้อยเข้ามา ปิดประตูโดยไม่ทันสังเกตเห็นปลายขาอวบขาวที่โดนลากหายเข้าไปห้องข้าง ๆ   
“หอมเหลือเกิน..อืมมม”  เพลงรบก้มหน้าสูดดมซอกคอหญิงสาวอดใจไม่ไหวจริง ๆ
“ท่านอาบน้ำก่อนไหมคะ”  มุกถามเสียงยั่วยวนยิ่งทำให้เพลงรบยิ่งคลั่ง รู้สึกกลับเป็นหนุ่มอีกครั้ง สงสัยจะต้องมาเป็นแขกประจำเฮียหมูซะแล้วเขาคิด
“ไม่ละ  ขอชั้นดูหนูให้เต็มตาหน่อยนะ..จุ๊ ๆๆๆ...แม่คุณ”  ไม่พูดเปล่าเขาปลดเสื้อคลุมบางเบาออก ตาเบิกกว้างราวเด็กเห็นขนมมองเรือนร่างงามไร้ที่ติขาวผ่องตัดกับชุดชั้นในสีดำสนิท ค่อย ๆ ประคองหล่อนนั่งบนเตียงอย่างทะนุถนอม ซุกไซร้ใบหน้าที่รกด้วยตอหนวดกับหน้าอกขาวสล้าง
“อืมมม..มมมม..อฟฟสสบบ”  เสียงครางพอใจดังเคละเคล้า ไม่นานบราตัวจิ๋วก็ถูกปลดออก เสียงครางพอใจดังทันที สองเต้านมอวบไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปขาวเย้ยหิมะด้วยหัวจุกสีสมพูสดใสกระจ่างเต็มสองตา  นายตำรวจหนุ่มใหญ่ซุกหน้าอ้าปากเลียหัวนมงับเบา ๆ ซุกไซร้อย่างหื่นกระหาย กลิ่นกายสาวที่หอมกว่าน้ำหอมทำเอาควยแข็งโด่แทบระเบิดดันผ้าขนหนูพองก๋า หล่อนเอียงอายด้วยจริตล้มตัวลงนอนให้ร่างแกร่งกำยำโถมทับทิ่มแทงดุ้นเนื้อยึก ๆ ใส่หว่างขา ในความเสียวซ่านหญิงสาวที่มีความช่ำชองในเพลงกามตอบสนองบิดเอวร้อนร่านสู้ความเป็นชายที่เป็นอิสระจากผ้าขนหนูอย่างท้าทาย หล่อนครางผลักเขาให้หงายลงกับที่นอน เพลงรบใจเต้นรัวไม่เคยมีเซ็กส์ครั้งไหนที่ตื่นเต้นเท่าครั้งนี้ หล่อนทั้งสวยทั้งเซ็กส์รู้สึกดีเหลือเกินที่หล่อนเป็นคนคุมเกม หลับตาดื่มด่ำกับความเสียวสุดขีด  สาวมุกคลอเคลียปากน้อย ๆ จิ้มลิ้มพัวพันหัวควยแกร่งอย่างรักใคร่ ปาดซ้ายแล้ววกมาทางขวาทำเอาผู้การตำรวจมาดเข้มแอ่นเอวตามสยิวสุด ๆ
“อูยยยยย...ซี้ดดดส์”  ลีลาดูดควยหล่อนแผ่วพริ้วยังกับผีเสื้อล้อดอกไม้  เพลงรบแขม่วท้องกลั้นน้ำแทบไม่อยู่ร้องซี้ดซ้าด  แต่แล้วหล่อนก็หยุดผละจากลำควยที่กระดกกระดนโด่  ก่อนจะขยับร่างคร่อมท่อนเนื้อนั้น หนุ่มใหญ่เบิกตาโพลงด้วยความพอใจ กลีบร่องสวาทที่แม้อยู่ใต้กางเกงในสีดำกลืนกินหัวควยเข้าไปทีละน้อย ๆ จนหมดลำ หล่อนควบแท่งชายชาตรีราวกับควบม้า
“อูยยยย...อ๊ะ..ๆๆๆ..ซี้ดดดดดสส์”  ทั้งคู่เย็ดกันสุดมันส์ลืมวันและเวลา ควยแข็งแกร่งชำแรกรูหีที่ยังหลบอยู่ใต้กางเกงในสีดำตลอดเวลาดังฟุบฟับ ๆๆๆ บ่งบอกถึงเกมกามอันเร่าร้อน เช่นเดียวกับสามสิงห์หนุ่มที่กำลังขับเคี่ยวกามกรีฑากับหมอนวดสาวอย่างสุดเหวี่ยงเช่นกัน  แต่แล้วความผิดปกติก็เกิดขึ้นเมื่อเพลงรบรู้สึกชาที่ปาก นิ้วมือทั้งสิบก็ชาวาบ ที่แย่ที่สุดก็คือความเสียวที่เกิดขึ้นก่อนหน้าอยู่ ๆ ก็มลายหายไปหมดสิ้น  ความเสียวที่ควรจะมากับแรงกระแทกกระทั้นจากหญิงสาวกลับกลายเป็นความชาด้าน เขาผงกหัวมองควยตัวเองที่ถูกหีสาวกลืนกินหน้าเหวอรู้สึกไม่ถูกต้อง พลันเบิกตากว้างตกใจสุดขีดเมื่อกางเกงในสีดำถูกกระชากออก  เผยให้เห็นหีอวบอูมขาวนวลเกลี้ยงเกลาไม่มีหมอยสักเส้น มีแต่ลายสักแมงมุมแม่หม้ายดำที่มีจุดแดงเด่นชัดกำลังแยกเขี้ยวขย้ำความเป็นชายของเขาที่ไร้ทางสู้
“แม่หม้ายดำ”  เพลงรบร้องตื่นตระหนก ประสบการณ์บอกว่าเขากำลังอยู่ในอันตราย ความเสียวซ่านที่กลายเป็นความชาหนึบแผ่ขยายไปทั้งร่างอย่างรวดเร็วทำให้นายตำรวจมือปราบเริ่มกลัว ใบหน้าหญิงสาวที่บิดเบี้ยวด้วยอารมณ์พิศวาสร้องครางเสียวรูสวาทที่โดนดุ้นเนื้อกับขนเพชรทิ่มแทงขัดแย้งกับแววตาเหี้ยมเกรียม  หล่อนรู้ว่ายาชาที่ทาบนหัวนมและร่องสวาทเริ่มทำงาน มุมปากปรากฎรอยยิ้มที่เพลงรบรู้สึกขนหัวลุก พยายามขยับมือแต่ไร้ความรู้สึก เหงื่อเขาเริ่มแตกไม่นึกฝันว่าแม่หม้ายดำจะปลอมตัวมาเป็นหมอนวด คิดพลางมองหีอวบอูมที่สักแมงมุมแม่หม้ายดำกำลังขย้อนหัวควยเข้า ๆ ออก ๆ รู้สึกตัวเองไม่ต่างจากแมงมุมตัวผู้ที่กำลังจะถึงวาระสุดท้ายของชีวิตหลังจากผสมพันธุ์เสร็จ เสียดายที่ปืนพกวางอยู่บนโต๊ะไม่งั้นยังพอมีโอกาส เสี้ยววินาทีที่เสียสมาธิ สาวสวยก็คว้ามือหยิบกุญแจมือจากไหนไม่รู้จะล๊อค แต่เสือเฒ่าจะอย่างไรก็ยังเป็นเสือ เพลงรบคิดรวดเร็วอาศัยแรงขย่มจากหญิงสาวพลิกตัวแรงจนหล่อนเซควยหลุดจากรู แรงเฉื่อยทำให้หมอนวดสาวยั้งไม่ทันกลิ้งตกเตียง เพลงรบใจชื้นขึ้นเมื่อมือที่ชายังพอขยับได้รีบดันตัวขึ้นพยายามจะเอื้อมให้ถึงซองปืน แต่ในขณะเดียวกันสาวสวยก็ลุกขึ้นกระโจนใส่แผ่นหลังกว้างกางเล็บข่วนเต็มแรง
“อ๊ากกก”  เลือดสด ๆ ไหลตามเล็บสาว แต่แรงหญิงหรือจะสู้แรงชาย ทั้งคู่เกลือกกลิ้งกระเสือกกระสนไปมา เพลงรบคืบคลานอยู่บนพื้นห้องโดยมีมุกตามเกาะอยู่ที่กลางลำตัวพยายามยื้อยุดร่างกำยำไว้ แต่เพลงรบที่แม้จะชาตามปลายประสาทก็ฮึดสู้มุ่งมั่นที่จะไปยังปืนพกให้ได้ ไม่ทันเห็นแววตาที่เปี่ยมไปด้วยชัยชนะของหญิงสาวเมื่อหล่อนคว้าพวงไข่ใบงามไว้ได้แล้วกระชากถอยหลัง
“อ๊ากกกกกกกกกกกก”  เพลงรบตาเหลือกถลนเมื่อจุดตายโดนเล่นงาน แม้จะเจ็บจุกปานใดก็ยังพยายามไปยังปืนความหวังเดียวที่จะรอดชีวิต  แต่มือของหมอนวดแสนสวยคล้ายเชื้อโรคเกาะกินกระดูกไม่ยอมปล่อยจากลูกกระโปกใหญ่ทั้งขยำทั้งขยี้จนเพลงรบสะท้านแทบช๊อค ลูกกระโปนถูกดึงยานห่างจากง่ามตูดน่าเสียวไส้
“อ๊ากกกกกกกก...ปล่อยยยกู..ปล่ออ..กู.อีสัตวว์..อือ..อื...อีสัตววว์”  เขาร้องโหยหวนไขว่คว้าหาปืนที่ห่างเพียงนิ้วเศษ พยายามยืดตัวต้านความเจ็บปวดแสนสาหัสอีกครั้ง อีกนิดเดียว ๆ ๆ เท่านั้น ในที่สุดความพยายามก็สัมฤทธิ์ผล กระบอกปืนถูกหันและขึ้นนกอย่างรวดเร็ว  แต่ก่อนที่ไกปืนจะลั่น ลูกปืนที่ออกจากปลายที่เก็บเสียงก็กระแทกปืนพกจนกระเด็น  เพลงรบใจหายวาบมองดูอาคันตุกะแปลกหน้าที่ยืนจังก้าหน้าประตู มันเป็นชายหนุ่มร่างใหญ่บึกบึนแข็งแรงในมือถือปืนดำสนิทควันกรุ่นจากกระสุนที่เพิ่งลั่นไปหมาด ๆ
“นายหญิง...ขอโทษครับที่ผมมาช้า”  บุญมาเอ่ยขอโทษนอบน้อม
“จัดการมัน”  มุกประดับพูดแค่นั้นหอบหายใจแรง ดีที่บุญมามาทันเวลาไม่งั้นเธอคงสิ้นชื่อไปแล้ว  เป็นอีกครั้งที่ความมั่นใจเกินไปของหล่อนเกือบทำให้พลาดพลั้ง...................
บุญมาแบกร่างไร้สติของผู้การเพลงรบไว้บนบ่า ปืนส่ายไปส่ายมาท่ามกลางเสียงหวีดร้องของบรรดาหมอนวดสาวและแขกที่มาเที่ยว  มุกประดับเดินตามหลังสมทบกับลูกน้องอีกสามคนเพื่อไปยังประตูหลังที่รถรออยู่   เสียงโวยวายตกใจทำให้สามสิงห์ที่กำลังปฎิบัติกามกิจเด้งตัวจากร่างอวบอัดทันที คว้าผ้าขนหนูพันรอบเอวเปิดประตูออกไปโดยไม่ลืมหยิบปืนคู่กายไปด้วย  ข้างนอกผู้คนวิ่งกันขวักไขว่ทีแรกคิดว่าไฟไหม้ แต่ปราการที่อยู่ใกล้จุดที่บุญมาพยายามหนีร้องตะโกนเรียกเพื่อน ตกใจไม่น้อยที่เห็นผู้การเพลงรบถูกคนแบกพยายามหลบหนี
“ไอ้รุจ ไอ้ว่าน  ผู้การอยู่นี่...เร็ว”  ปราการกระชับปืนวิ่งฝ่าผู้คนที่วิ่งสวนมาเช่นเดียวกับอติรุจและก้องภพที่ต้องคอยยกปืนหลีกทางให้ ท่ามกลางความโกลาหล ผู้คน ๆ แล้วคนเล่าวิ่งผ่านสามนายตำรวจหนุ่มที่มีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวเป็นอาภรณ์ประดับกายพันท่อนล่างไว้ การเบียดเสียดยัดเยียดทำให้ผ้าขนหนูผืนน้อยหลุดออกจากร่างล่ำสันอย่างง่ายดาย แต่ด้วยความรุ่มร้อนตึงเครียดที่จะช่วยผู้บังคับบัญชาสามสิงห์หนุ่มจึงไม่รู้ตัวแม้แต่น้อยว่าขณะนี้พวกเขากำลังอวดร่างเปลือยเปล่าล่ำสันต่อหน้าหมอนวดและแขกหลายสิบคนอย่างไม่ตั้งใจ  ยังคงมุ่งหน้าไปยังประตูฉุกเฉินตามคนร้ายอย่างแข็งขัน ในขณะที่ผู้คนตอนนี้กระจุกตัวอยู่ด้านหลังคอยลุ้นเอาใจช่วยสามนายตำรวจสุดหล่อในชุดวันเกิดที่กระชับปืนด้วยท่วงท่ามาดมั่น สองฝ่ายสาดกระสุนใส่กันหลายนัด แต่สุดท้ายพวกมันพร้อมผู้การเพลงรบก็หนีรอดไปได้  อติรุจ ปราการและก้องภพถอนหายใจยาวรู้สึกผิดหวังทีปล่อยพวกมันหนีรอด  หันหลังกลับก็เห็นผู้คนหลายสิบมองมาด้วยสายตาแปลก ๆ และเป็นปราการที่รู้สึกถึงความผิดปกติก่อน ก้มมองดูตัวเองใจหายวาบรีบยกมือกุมกล่องดวงใจตัวงออายแทบแทรกแผ่นดินหนี ใช้ศอกดันอติรุจเพื่อนซี้ที่ยืนอวดควยเปียกเยิ้มด้วยน้ำหีน้ำควยมันปลาบ อติรุจรีบกุมเป้าตัวเองเช่นกันหน้าแดงก่ำด้วยความอับอายพยายามส่งสัญญานให้ก้องภพที่ยังไม่รู้ตัว ยกมือให้กลุ่มคน
“ไม่มีอะไรแล้วครับ ขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบ  ทุกอย่างเรียบร้อย” 
“ไอ้ว่าน  ไอ้ว่าน”  ปราการเรียกน้องรักสองครั้งก้องภพถึงหันหน้ามา พอเห็นเท่านั้นไอ้แสบแสนทะเล้นก็กุมหำตัวเองวิ่งหลบไปข้างหลังอติรุจสุดหล่อที่ยืนหน้าเหรอหรากุมเป้าที่ปิดไม่มิด และในเวลาเดียวกันแสงแฟลชก็สว่างวูบวาบพร้อมกับเสียงขำของหญิงสาวหลายนางที่เต็มอิ่มกับอาหารตาที่แสนจะเร้าใจ
“เฮ้ยย..ใครถ่ายรูป”  อติรุจตะโกน เพ่งมองร่างที่แหวกผู้คนออกมา
“ไอ้ยอด”  สามสิงห์อุทานพร้อมกันตกใจเหงื่อแตก  ก็จะไม่ให้ตกใจได้ไงไอ้ยอดหรือยอดเพชรนักข่าวหัวเห็ดไม้เบื่อไม้เมาของทั้งสาม ไอ้นี่ละที่ชอบเขียนข่าวโจมตีการทำงานของพวกเขาโดยเฉพาะคดีเจ้าชายมาร์ติน นึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าจะซวยมาเจอมันที่นี่ในสภาพนี้..................
“หม้ายดำเหิมลักพาตัวตำรวจใหญ่”  คือข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์  ตามด้วยข่าวรอง
“สามสิงห์คะนองสู้ศึก”  พร้อมด้วยรูปอติรุจ ปราการและก้องภพที่ยืนอวดหุ่นล่อนจ้อนมีภาพดำปิดตรงของลับหน้าตาเหรอหรา มือนึงถือปืนอีกมือกุมเป้าดูขัดแย้งตลกสิ้นดี
“ผมไม่รู้ว่าพวกคุณคิดอะไรกันอยู่...ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมความเชื่อมั่นต่อสถาบันตำรวจตกต่ำลงทุกวัน”  คำพูดออกจากปากนายตำรวจระดับสูงที่มารับผิดชอบแทนผู้การเพลงรบซึ่งถูกพวกหม้ายดำจับตัวไป
“ผมขอโทษครับท่าน”  อติรุจ ปราการ ก้องภพพูดพร้อมกันหน้าชาวาบเหมือนถูกตบ มองผู้บังคับบัญชาคนใหม่หายใจไม่ทั่วท้อง  พล.ต.ต เลือดไท  รักมาตุภูมิ คือชายหนุ่มวัยห้าสิบเพื่อนร่วมรุ่นของเพลงรบ ใบหน้าหล่อเหลาคมสันเคร่งขรึมสมวัยท่าทางเอาจริงเอาจังกับงาน
“เอาละ...พวกคุณออกไปได้แล้ว”  เขาสั่งราบเรียบ แต่พอสามหนุ่มออกไปแล้ว รอยยิ้มเย็นชาก็ปรากฎที่มุมปากทันที...........................


เรื่องเสียวสไตล์ BBrock

สามสิงห์สยบไพรี ตอนที่ 20