สามสิงห์สยบไพรี ตอนที่ 10

ในความมืดอติรุจ ปราการและก้องภพถูกห้อมล้อมพาตัวกลับหลังเวที ควยใหญ่ที่พ่นน้ำออกไปหลายระลอกยังสั่นสะท้านแข็งโด่ด้วยฤทธิ์ยาแกว่งไกวสู้กับหลายมือที่รุมลวนลามขยำขยี้ถอกขึ้นถอกลงอย่างหื่นกระหาย

“เฮ้ยยย...ๆๆๆ...ปล่อยกู ๆๆ..ไอ้พวกโรคจิต..ปล่อยกู”  สามสิงห์หนุ่มปัดป้องตัวเองสุดชีวิตแต่ก็ไม่วายถูกล้วงควักชักว่าวจนน้ำแทบแตกอีกครั้ง เมื่อมาถึงหลังเวที ชายหนุ่มหน้าตาดีรูปร่างดีในชุดเสื้อหนังแขนกุดรัดรูปขับเน้นมัดกล้ามสมส่วนกับกางเกงหนังขาสั้นรัดรูปเช่นกันยืนเผชิญหน้ากับสามตำรวจหนุ่มที่ควยโด่หงึกหงัก พร้อมกับโชว์คลิปภาพผู้การเพลงรบให้ดูอีกครั้งเป็นการตอกย้ำว่าภารกิจคืนนี้ยังไม่สิ้นสุด

“เอาละ...คืนนี้พวกคุณทำได้ดีมาก..เกมต่อไปพวกคุณจะต้องไปเต้นโชว์ที่บาร์เกย์  อ้อ...ผมชื่อธงศึกจะรับหน้าที่ฝึกเต้นให้พวกคุณเอง”  ชายหนุ่มแปลกหน้าพูดราบเรียบสุภาพกว่าที่คิด

“ไม่มีทาง.....พวกกูไม่ทำ...”  ก้องภพอีกนั่นแหละที่สะกดอารมณ์ไม่อยู่

“แต่คุณอย่าลืมสิว่าชีวิตผู้การเพลงรบอยู่ในมือพวกคุณ...ผมจะบอกให้รู้อีกอย่างนะ..ที่จริงนายผมไม่มีความจำเป็นอะไรเลยที่จะมาเสียเวลาเล่นเกมพวกนี้ พูดก็พูดเถอะด้วยสภาพของพวกคุณตอนนี้ถ้านายจะจัดการพวกคุณนะง่ายแสนง่าย ง่ายยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือซะอีก...”  ธงศึกเปรยด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความมั่นใจเกินร้อย  อติรุจไม่แน่ใจในคำพูดของชายหนุ่มแปลกหน้า จะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อตอนนี้กองกำลังของผู้การเลือดไทกระจายอยู่ทุกจุด

“หรือพวกคุณจะลองดูก็ได้”  อติรุจมองหน้าเพื่อนทั้งสองแล้วมองชายหนุ่มที่ชื่อธงศึกคล้ายกับจะชั่งใจฝ่ายตรงข้าม  แต่ในใจก็รู้สึกแปลก ๆ เหมือนกันที่ไม่เห็นเงาตำรวจซักคน หรือว่าเกิดอะไรขึ้น อดเป็นห่วงพวกคุณหญิงรุจีและผู้การเลือดไทไม่ได้ ลืมเรื่องวีรกรรมบนแคทวอล์กที่น่าอับอายไปเลย รู้สึกว่าพวกหม้ายดำมันกล้าแกร่งกว่าที่คิดไว้มากจริง ๆ รู้ทั้งรู้ว่าพวกมันต้องการปั่นหัวเล่น ต้องการแกล้งให้ความฮึกเหิมลดทอนลงด้วยความอับอายแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ยิ่งดูคลิปร้องอ้อนวอนของนายพลเพลงรบซึ่งหมดสภาพในมือธงศึกก็จำต้องฝืนทนรับข้อเสนอของพวกมันพยักหน้าช้า ๆ

“ก็ได้....แต่หวังว่าพวกหม้ายดำจะมีสัจจะไม่ทำอะไรผู้การเพลงรบ”  อติรุจเอ่ยน้ำเสียงกร้าว

“ข้อนี้ผมยืนยันได้”  ธงศึกบอก ก่อนจะพาสามหนุ่มขึ้นรถมุ่งตรงไปยังย่านโลกีย์ที่คลาคล่ำด้วยหมู่ชายรักชายที่มาเที่ยวกันแน่นขนัด.......................ด้านนอกฮอลล์ที่จัดแฟชั่นโชว์เริ่มสงบลงแล้วเพราะตำรวจเข้ามาเคลียร์พื้นที่ นักข่าวทั้งหมดถูกยึดกล้องที่บันทึกภาพทั้งหมดไว้ ส่วนการถ่ายทอดสดซึ่งสัญญาณจะช้ากว่านิดหน่อยก็ตัดเป็นจอดำได้ทันเวลา ดังนั้นภาพอุจาดตาของสามหนุ่มสุดหล่อก็ถือว่ายังไม่ถูกแพร่หลาย ยกเว้นภาพที่ถูกถ่ายด้วยโทรศัพท์มือถือซึ่งยากต่อการควบคุมได้เล็ดลอดกลายเป็นคลิปฮอตว่อนเน็ตในเวลาอันรวดเร็วยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง

“นี่พวกคุณทำบ้าอะไร....ดูซิ..หน้าตาผมเผ้าเลอะไปหมด”  คุณหญิงรุจีที่จัดการคราบน้ำเงี่ยนเรียบร้อยระเบิดอารมณ์ใส่ผู้การเลือดไททันทีที่เจอหน้า

“ผมไม่มีอะไรจะแก้ตัวหรอกครับคุณหญิง.....ไว้ผมสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วจะจัดการให้นะครับ”  นายพลหนุ่มเช็ดหน้าที่เพิ่งล้างคราบน้ำกามเช่นกัน

“จัดการ..คุณจะจัดการยังไง....คุณดูยายทรายสิตัวยังสั่นผวากับ......ฮื่อ..ไม่อยากจะพูดถึงให้เป็นเสนียดปากเลยจริง ๆ”  คุณหญิงอารมณ์ร้อนชี้มายังลูกสาวแสนสวยที่หน้าหงิกเมคอัพที่แต่งมาอย่างดีหายไปหมดเหลือเพียงหน้าซีด ๆ ที่ขุ่นมัวด้วยความโกรธ

“เอางี้...ชั้นต้องการให้นายคนนั้นไปขอโทษชั้นกับลูกสาวที่บ้าน และถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะขอตัวไว้อบรมสักเจ็ดวัน...แค่นี้ผู้การคงจะจัดการให้ชั้นได้นะ”  นังคุณหญิงที่มีแต่คนเอาใจจนเคยตัวแม้แต่ผัวตัวเองวางก้ามเต็มที่ ไอ้ที่ขอไว้อบรมก็แค่ข้ออ้าง จริง ๆ แล้วหล่อนอยากจะจิกใช้แกล้งหมวดก้องภพเล่นเพื่อความสะใจเป็นการระบายโทสะซะมากกว่า

“ก็ได้ครับ แล้วผมจะจัดการให้”  ผู้การเลือดไทอ้อมแอ้มไม่กล้าขัดเพราะบารมีพ่อหล่อน........................

บาร์ที่พวกอติรุจจะต้องเต้นโชว์ถือว่าเป็นบาร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในย่าน ซึ่งแน่นอนว่าจำนวนคนเที่ยวนั้นมากมายกว่าทุกที่  ที่จริงบาร์เกย์ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับสามนายตำรวจหนุ่ม ด้วยภาระหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ทำให้เคยมาทำคดีเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกายหลายครั้ง แต่ความรู้สึกครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้ง เพราะครั้งนี้พวกเขามาในฐานะนักเต้นเพื่อสร้างความบันเทิงและเรียกเงินทิปจากแขกเกย์หลากหลายรูปแบบ  ธงศึกที่เป็นครูสอนเต้นยื่นชุดที่ทั้งสามต้องใส่ให้  ซึ่งก็คล้ายกันคือทุกคนจะต้องสวมกางเกงในไวนิล (พลาสติกชนิดหนึ่ง)  สีดำมันระยับด้วยน้ำยาขัดเงาอย่างดีเว้าสูงรัดรูปเน้นโชว์ส่วนสัดความเป็นชายเต็มที่  คู่กับรองเท้าบู๊ตหนังสีดำ จะต่างกันก็เพียงรายละเอียดของท่อนบน ซึ่งอติรุจได้เสื้อ อย่าเรียกเสื้อดีกว่าเพราะมันเป็นเพียงแขนเสื้อยาวไวนิลสีดำที่ยึดด้วยแผ่นไวนิลตรงส่วนคอ เมื่อใส่แล้วก็มีเพียงแขนสองข้างที่อยู่ใต้ปลอกพลาสติกมันวาวสีดำเท่านั้น  ส่วนแผ่นอกสวยงามด้วยไรขนเซ็กซี่พร้อมด้วยขนหน้าท้องดกดำนั้นเปิดหราไร้สิ่งใดปกปิดโชว์กล้ามแน่นสีน้ำผึ้งเป็นลอน เช่นเดียวกับแผ่นหลังที่เปิดกว้างโชว์มัดกล้ามบึกบึน ส่วนของปราการเป็นเสื้อซีทรูตาข่ายแขนยาวสีดำเต็มตัวซึ่งแม้จะไม่ได้โชว์เรือนร่างกำยำที่อุดมไปด้วยขนดกดำแห่งชายชาตรีแต่เมื่อบวกกับใบหน้าหล่อเหลาด้วยไรหนวดคมเข้มก็ดูเซ็กซี่ขยี้ใจเกย์ให้วาบหวิวไปตาม ๆ กัน  ก้องภพเองก็ไม่ต่างกันแถมชุดที่ได้รู้สึกจะโชว์เนื้อหนังมังสามากกว่าพี่ ๆ ด้วยซ้ำ คือท่อนบนเป็นเสื้อแขนกุดทำด้วยไวนิลดำมันวาวที่ไม่น่าเรียกว่าเสื้อเพราะมันเป็นเพียงสายคาดหน้าอกเหนือราวนมเส้นบาง ๆ เท่านั้น เมื่อใส่แล้วส่วนสัดอื่น ๆ ก็เปลือยเปล่าโดยเฉพาะหน้าอกขาวล่ำที่แม้ปราศจากไรขนแต่ก็น่ามองเพราะกล้ามท้องซิกแพ็ค แต่ที่ยิ่งน่าดูก็คือกลุ่มขนจากสะดือที่เลื้อยหายไปในกางเกงในสีดำลึกลับน่าค้นหานั้น  กว่าจะใส่ชุดเต้นเสร็จก็ต้องทำใจอยู่หลายส่วน ยิ่งเห็นเงาสะท้อนในกระจกบานใหญ่ก็ยิ่งสมเพชตัวเอง บ่อยครั้งที่ถามตัวเองว่าทำถูกหรือเปล่าที่ยอมเป็นเครื่องมือให้พวกศัตรูย่ำยีทำลายเกียรติยศศักดิ์ศรีของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์โดยไม่คิดจะสู้  แต่เมื่อนึกถึงความปลอดภัยของผู้บังคับบัญชาก็ได้รับคำตอบ ต้องยอมกล้ำกลืนฝืนทนเชิดหน้าขบกรามแน่นปล่อยวางเกียรติยศศักดิ์ศรีทั้งปวงให้พวกกระเทยลูบคลำควยและลูกกระโปกในขณะที่ช่วยแต่งตัวแต่งหน้าเสริมหล่อ โดยเฉพาะปราการที่ขยาดแขยงสุด ๆ เมื่อต้องมาเจอในสิ่งซึ่งแพ้ทางมาตลอด  เหตุการณ์ที่เกือบเสียตูดให้แก่อาจารย์ตุ๊ดกับเรื่องที่เกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ  ตอนที่อาจารย์ติ๊ดตี่กระโดดอ้าปากรับน้ำเงี่ยนเขายังคงหลอกหลอนจนขนคอตั้งชันไม่หาย

“เอาละ...เอาละ”  ธงศึกปรบมือ พวกกระเทยที่รุมแต่งตัวแต่งหน้าสามหนุ่มก็ถอยออกไป

“คราวนี้ก็มาเริ่มเรียนเต้นได้แล้วเดี๋ยวจะไม่ทัน”  เขาพูดต่อ สามสิงห์ในชุดวาบหวิวมองกันและกันพลางมองดูครูสอนเต้นที่เริ่มลีลาโยกเอวพริ้วร่อนสะโพก ยกมือวาดไปตามเสียงเพลง

“หนึ่ง  สอง  สาม...”  ธงศึกโชว์ลีลาเต้นอย่างไม่มีหวงวิชา ทั้งร่อนทั้งส่ายเด้งหน้าเด้งหลังสุดเร่าร้อนจนจบท่า แล้วก็ถึงเวลาของพวกอติรุจที่ต้องทำตาม ซึ่งลีลาท่าเต้นยั่วยวนกวนเซ็กส์ไม่ใช่จะเลียนแบบกันได้ง่าย ๆ  หลังจากปล้ำกันพักใหญ่ ธงศึกก็ยิ้มพอใจแม้ไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ก็ถือว่าใช้ได้...............สามสิงห์หนุ่มสุดเซ็กซี่แอบมองด้านหน้าเวทีใจเต้นระทึกกับกลุ่มนักเที่ยวที่ดื่มเต้นกันอย่างสุดเหวี่ยง เสียงเพลงเร้าระทึกยิ่งปลุกเร้าอารมณ์คึกคะนองของบรรดาเกย์ทั้งหนุ่มหน้าใส วัยฉกรรจ์ถึงวัยตกกระซึ่งปล่อยอารมณ์กันเต็มที่

“สวัสดีครับแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน...ผมมีความยินดีเหลือเกินที่จะประกาศให้ทุกท่านทราบว่าค่ำคืนนี้เป็นคืนพิเศษจริง ๆ.....เนื่องในโอกาสที่ บริษัท Dude’s Bum ได้ทำการเปิดตัวในประเทศไทยซึ่งมีการจัดแสดงแฟชั่นโชว์มอบรายได้ให้กับกรมตำรวจอย่างเป็นทางการแล้ว ทางบริษัทยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของกลุ่มลูกค้าซึ่งมีอุปการะคุณแก่บริษัทมาอย่างยาวนาน ทางบริษัทจึงใคร่ขอเป็นเจ้าภาพรับรองทุก ๆ ท่านในค่ำคืนนี้ด้วยโชว์สุดพิเศษซึ่งได้รับเกียรติจากสามนายตำรวจหนุ่มสุดหล่อสุดฮอตแห่งกรมตำรวจที่ตั้งใจมอบโชว์ชุดนี้เพื่อเป็นการขอบคุณแก่บริษัท Dude’s Bum ขอเชิญทุกท่านรับชมได้เลยครับ”  สิ้นเสียงประกาศ เสียงโห่ร้องดังกึกก้องของนักเที่ยวก็ดังกระหึ่ม ทุกสายตามองมายังเวทีเป็นจุดเดียวเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งว่าจะมีโชว์วาบหวิวจากตำรวจตัวเป็น ๆ อติรุจ ปราการและก้องภพทั้งสามยืนตัวเย็นวาบรวบรวมความกล้า พวกเขาเดินมาไกลเกินกว่าจะหันหลังกลับแล้ว สูดลมหายใจลึกอีกหลายครั้งก่อนจะโยกตัวตามเสียงเพลงเดินออกมาหน้าเวที ดีหน่อยที่เสียงเพลงบนเวทีที่เป็นเพลงโปรดทำให้ความเคอะเขินถูกลดทอนลงได้บ้าง