Wednesday 24 October 2018

สามสิงห์สยบไพรี ตอนที่ 16




พงศกรกับก้องหล้าสองพี่น้องสะดุ้งตื่นหยีตาไม่คุ้นกับแสงไฟ พอปรับสายตาได้ก็พบว่าตนเองอยู่บนเวทีสว่างจ้า นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม่มีเสื้อผ้าปกปิดร่างกายแม้สักชิ้นเดียว  สำรวจดูก็เห็นว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ตามลำพัง ถัดไปมีชายหนุ่มอีกหลายคนนั่งเป็นแถวเรียงหน้ากระดาน สองมือสองเท้าถูกล่ามด้วยโซ่ยาวหันหน้าหาความมืดมิดด้านล่าง ในฐานะตำรวจก้องหล้ารู้ดีว่าสภาพนี้ต่อให้เก่งกาจแค่ไหนก็หมดปัญญาดิ้นรน กำลังเค้นสมองว่าใครจับตัวพวกเขามา ชายฉกรรจ์สองคนก็เดินเข้ามาจับตัวชายวัยกลางคนสองคนลุกขึ้น
“ปล่อยกู พวกมึงจับกูมาทำไม...”  หนึ่งในนั้นร้องโวยวายหวาดกลัว แต่ก็ไม่กล้าขัดขืนปล่อยให้ชายฉกรรจ์หยิบห่วงเหล็กสีดำสนิทมารัดโคนควยเอาไว้  พามานั่งบนเก้าอี้ประหลาดที่เตรียมไว้หน้าเวทีทำให้พงศกรกับก้องหล้ามีโอกาสเห็นตัวอักษรบนหน้าอกของทั้งคู่อย่างชัดเจน
 “ข่มขืนเด็กหญิง”  สองพี่น้องก้มมองหน้าอกตัวเองโดยไม่ได้นัดหมาย  ใจหายวาบเมื่อเห็นหน้าอกล่ำของตนมีตัวอักษรเหมือนกัน  อ่านกลับหัวได้ว่า
“เจ้าชู้หน้าหม้อ”  พวกเขาไม่รู้ว่าตัวอักษรพวกนี้หมายถึงอะไร แถมที่ควยก็ยังเขียนตัวย่อชื่อของพวกเขาอีกด้วย  แต่สัญชาติญาณบอกว่ากำลังอยู่ในอันตราย  ชายสองคนที่นั่งอยู่หน้าสุดตอนนี้ตัวสั่นสะท้านหวาดกลัวสุด ๆ พาเอาลูกกระโปกยานที่ไม่มีอะไรรองรับห้อยสั่นโทงเทงอยู่เหนือโถกระเบื้องเคลือบด้านล่างพอดิบพอดี พงศกรสูดลมหายใจอย่างหนาวเหน็บความหวาดกลัวแผ่ซ่านไปทั่วร่าง รู้ถึงชะตาของชายสองคนและของตนเองขึ้นมาทันที ไม่เคยนึกฝันว่าความเจ้าชู้จะพาเขามาถึงจุดนี้  พลันเสียงที่จับทางไม่ถูกว่ามาจากไหนก็ดังขึ้น
“ตอนนี้ก็ถึงเวลาสนุกแล้ว  สองคนที่อยู่ด้านหน้านี้ คนนึงคือครูใหญ่ที่มีความเมตตาต่อนักเรียนไม่ต่างจากพ่อพระ  อีกคนคือประธานมูลนิธิช่วยเหลือเด็กกำพร้าที่มีชื่อเสียงแต่ใครจะรู้ว่าหลังฉากของความเป็นคนดีน่าเคารพ  พวกมันจะชั่วช้าทำลายพรมจรรย์เด็กที่อยู่ในความดูแลไปนับไม่ถ้วน ค่ำคืนนี้ทุกท่านจะได้เป็นสักขีพยานในการจัดการไอ้พวกคนชั่วที่อวดอ้างเป็นคนดีแทนกฎหมายที่เอื้อมมือไปไม่ถึงพวกมัน”  พงศกรกับก้องหล้ามองหน้ากันเลิ่กลั่กนั่งกระสับกระส่าย นึกไม่ถึงว่าด้านล่างที่มืดมิดจะมีคนดู นี่ถ้าเขารู้ว่าไม่เพียงมีคนดู หนำซ้ำการแสดงบนเวทีนี้ยังถูกบันทึกวีดีโออีกด้วยคงจะทำหน้าไม่ถูก  




“.....มึงสองคนฟังให้ดี ในเมื่อพวกมึงชอบพล่าพรมจรรย์เด็กหญิง  คืนนี้กูก็เลยจะให้พวกมึงเล่นเกม  หีกระป๋องที่พวกมึงจะได้รับจำลองมาจากเด็กหญิงวัยสิบขวบที่พวกมึงชอบ  มึงจะต้องแข่งกันเย็ดหีนั่น ภายในระยะเวลาที่กำหนดใครน้ำแตกก่อนก็รอด  ส่วนคนแพ้...หึ ๆๆ......ควยมึงก็จะโดนกลไกในห่วงเหล็กตัดทิ้งไม่มีโอกาสไปสร้างความระยำกับเด็กหญิงที่น่าสงสารได้อีก แต่ถ้าเลยเวลาไม่มีผู้ชนะก็ถือว่าพวกมึงแพ้ทั้งคู่”  พอสิ้นคำประกาศชายสองคนที่ถูกอ้างถึงก็ร้องลั่นหวาดกลัวสุดขีด เยี่ยวแตกเรี่ยราดรับหีกระป๋องน่ารักด้วยมืออันสั่นเทา
“ได้โปรด   อย่าทำผมเลย..ผมกลัวแล้ว สงสารผมเถอะครับ ลูกผมยังเล็ก..ฮือ ๆๆๆ”  ทั้งสองคนร่ำร้องเหมือนเด็ก ๆ แต่เมื่อได้ยินสัญญาณให้เริ่ม จิ๋มซิลิโคนก็ถูกสวมลงบนดุ้นควยทันที ทั้งคู่ตะลีตะลานพยายามใช้หอยกระป๋องแสนฟิตปลุกควยให้แข็งสุดชีวิต แต่ด้วยความหวาดกลัว ควยเจ้ากรรมก็ไม่ยอมสู้สักที ต่างคนต่างกระแทกรูหีซิลิโคนใส่ลำควยอย่างบ้าคลั่งเหงื่อแตกกระจาย หอบหายใจหนักหน่วงทำทุกวิถีทางเพื่อแย่งชิงตำแหน่งผู้ชนะให้ได้  เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว หัวควยถูกรูดขยี้กับช่องซิลิโคนแคบเล็กถลอกเจ็บแสบแต่ก็ยังไม่ได้ผู้ชนะซักทีจนเสียงกริ่งดังขึ้น
“กริ๊ง”  ชายสองคนหยุดมือโดยอัตโนมัติ  ตาเบิกค้างหน้าซีดเป็นไก่ต้มมองหน้ากันและกัน ใจรัวเป็นกลองเพล ไม่เพียงสองคนที่รอคอยอย่างหวาดหวั่น พงศกรกับก้องหล้าพร้อมด้วยเพื่อนร่วมชะตากรรมก็รอลุ้นจนตัวโก่งแทบลืมหายใจ  พลันเสียงกริ๊ก ๆ เหมือนเสียงชัตเตอร์กล้องก็แหวกทะลุความเงียบแม้แผ่วเบาแต่มีอำนาจสะกดผู้คน
“อ๊ากกกกก...กก..คว..ค..ควยยยย..ยยย..กกกกู..”  เแทบจะทันทีที่เสียงคมมีดตวัดฉับ ๆ ผ่านพ้น ชายสองคนก็แหกปากร้องโหยหวน สองมือกุมพงหมอยซึ่งบัดนี้ถูกย้อมด้วยเลือดสด ๆ เป็นสีแดงฉาน ราบเรียบมีเพียงตอเนื้อที่เลือดฉีดพุ่งออกมาราวน้ำพุ  ต่ำลงไปก็คือควยดุ้นคล้ำนอนแอ้งแม้งอยู่ในโถสีขาวอย่างชัดเจน พงศกรและก้องหล้าใจสั่นหวิวลมในท้องปั่นป่วนพะอืดพะอม ถูกจับมาก็แย่แล้ว ยิ่งมาเจอเหตุการณ์ที่น่าหวาดเสียวเห็นความเป็นชายถูกตัดทำลายลงต่อหน้าต่อตาหน้าก็ซีดเผือด เสียงอืออาซึ่งดังมาจากด้านล่างอันมืดมิดก็ยิ่งทำให้ใจเสียเมื่อรู้ว่าความทุกข์ทรมานของพวกเขาได้กลายเป็นความบันเทิงของไอ้พวกโรคจิตเลือดเย็นผิดมนุษย์ไปแล้ว.................................






ด้วยการดูแลอย่างใกล้ชิดของหมอธรรม์ อาการของผู้การเพลงรบก็ดีวันดีคืน กลองรบซึ่งปกติไม่เคยไปมาหาสู่ก็มาหาพ่อบ่อยขึ้นจนเริ่มคุ้นเคยกับอติรุจและพวก วันนี้เขาเดินทางมาที่ สน. ด้วยตัวเอง จุดประสงค์ก็เพื่อมาพบก้องภพเป็นการส่วนตัวและจะชวนไปงานปาร์ตี้เล็ก ๆ ที่จัดขึ้นเพื่อขอบคุณที่ก้องภพเสี่ยงชีวิตช่วยเหลือผู้การเพลงรบจากเงื้อมมือหม้ายดำในโรงแรมม่านรูด ก้องภพไม่ได้เฉลียวใจแม้แต่น้อยว่าทำไมกลองรบเจาะจงมาขอบคุณเขาทั้ง ๆ ที่เป็นผลงานของทุกคน พอได้ยินว่าในงานมีสาว ๆ สวย ๆ หลายคนอยากรู้จักก็หน้ามืด ความเจ้าชู้ที่อยู่ในสายเลือดก็ทำให้ตกปากรับคำที่จะไปร่วมงานด้วย  กลองรบยิ้มไม่นึกว่าไอ้ตำรวจหน้าซื่อจะเซ่อขนาดนี้ แค่เอาหอยเข้าล่อหน่อยเดียวก็ติดกับ รีบขับรถพาก้องภพไปยังจุดหมายที่เตรียมไว้ ไม่นานรถก็เลี้ยวเข้ามาในซอยเปลี่ยวที่ค่อนข้างมืด ก้องภพรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลแต่ก็สงบปากไว้ เปล่าเขาไม่ได้ระแวงกลองรบ แต่สัญชาติญาณผู้พิทักษ์สันติราษฏร์บอกเขาว่าต้องเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ไม่คาดคิด จริงดังคาดจู่ ๆ ก็มีรถสีดำไม่รู้มาจากไหนวิ่งตัดหน้าทำให้กลองรบเหยีบเบรคกระทันหัน
“จุ๊ ๆๆ”  ก้องภพหันไปบอกกลองรบให้ก้มต่ำอย่าส่งเสียง  กลองรบเองก็รู้สึกแปลกใจเพราะที่นัดแนะกับพวกนักเลงให้มาสั่งสอนก้องภพไม่ใช่แบบนี้  นึกแล้วก็ชักกลัว แม้จะเป็นลูกนายตำรวจใหญ่แต่กลองรบไม่ได้มีบุคลิกองอาจเหมือนพ่อหนำซ้ำยังเป็นคนหัวอ่อนจึงถูกเด่นเดือนหลอกใช้ เช่นเดียวกับครั้งนี้ที่แผนการทั้งหมดก็ถูกนังวายร้ายเด่นเดือนซ้อนแผนเพื่อจะจับตัวก้องภพโดยอาศัยเขาเป็นนกต่อโดยที่ตัวเองไม่รู้ด้วยซ้ำ ท่ามกลางความมืดมิดก้องภพอาศัยโสตประสาทแยกแยะทิศทางและเสียงสวบสาบที่คืบคลานรอบตัว พลันได้ยินเสียงคุ้นหู
“พวกแกแยกย้ายไปอีกด้าน  ชั้นต้องการจับเป็น” 
“ริสา”  ก้องภพครางกระทุ้งสีข้างกลองรบส่งสัญญาณให้เปิดประตู โชคยังดีที่อีกด้านเป็นพงแขมแน่นขนัด ยามกระทันหันกว่าพวกมันจะมาถึงก็คงต้องใช้เวลาสักพัก กลองรบที่มีชีวิตสุขสบายมาตลอดไม่เคยเจอสถานการณ์เสี่ยงตายแบบนี้ก็ลนลานทำอะไรไม่ถูก กว่าทั้งสองจะหลุดออกจากรถพวกมันก็แทบใกล้ถึงตัวแล้ว ดีที่ก้องภพประสาทไวฉวยโอกาสยิงดักพวกมันไว้ อาศัยความมืดหนีลงไปในน้ำ  แต่กลองรบที่ชักช้างุ่มง่ามดันเดินสะดุดตอไม้หน้าทิ่ม ก้องภพจะกลับไปช่วยก็ไม่ทันการณ์  คนร้ายสามคนและเด่นเดือนคนสวยก็เข้าประชิดตัวแล้ว ก้องภพกำหมัดแนบแน่นแค้นใจที่ไม่สามารถช่วยกลองรบได้ ต้องตัดใจมุดน้ำหนีเอาตัวรอด แต่ก็ยังทันได้ยินเสียงกลองรบครางตกตะลึงแบบไม่เชื่อตาตัวเองว่า
“เดือน” ............................ข่าวกลองรบถูกพวกหม้ายดำจับตัวไปทำให้เพลงรบนั่งไม่ติด คอยติดตามข่าวคราวจากพวกสามสิงห์อย่างใกล้ชิด ด้านอติรุจและพวกก็ประชุมกันอย่างคร่ำเคร่งเพื่อหาเบาะแสแต่ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้าทำให้เครียดไปตาม ๆ กัน โดยเฉพาะก้องภพที่โดนหนักทั้งเรื่องงานเรื่องส่วนตัว จู่ ๆ ยูริก็มาบอกว่าท้องได้สองเดือนแล้ว ทางบ้านเร่งรัดให้แต่งงาน ทั้ง ๆ ที่ไม่อยากแต่งแต่ก้องภพก็เลี่ยงไม่ได้ วันแต่งงานจึงถูกกำหนดขึ้นอย่างรวดเร็ว ก้องภพติดต่อพี่ชายทั้งสองเพื่อส่งข่าวแต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่าพงศกรและก้องหล้าหายตัวไปติดต่อไม่ได้  กำลังปรึกษาอติรุจกับปราการ คลิปวีดีโอก็ถูกส่งเข้ามาในโทรศัพท์พอดี ก้องภพพร้อมด้วยอติรุจและปราการดูคลิปปริศนาด้วยใจเต้นระทึก 
“แม่หม้ายดำ”  อติรุจพึมพำ มองดูนักกีฬาว่ายน้ำหนุ่มทีมชาติสุดฮอตกับดาราหนุ่มหล่อที่มีข้อความ “ฟันแล้วทิ้ง”  เด่นหราบนหน้าอกเปลือยกำลังขะมักเขม้นสาวควยชักว่าวกันอย่างเอาเป็นเอาตายราวกับเป็นวันสุดท้ายของชีวิต
“อื๊ออออสส์...อื๊ออออสส์”  เสียงร้องเหมือนปลุกปลอบกำลังขวัญมากกว่าจะเป็นเสียงครางด้วยความเสียว  ที่น่าตกใจคือด้านหลังของสองหนุ่มที่กำลังประกอบกามกิจคือพงศกรและก้องหล้า ยังมีเฮียหมูเจ้าของอาบอบนวดและไอ้ยอดเพชรนักข่าวไม้เบื่อไม้เมากับพวกเขาที่หายตัวไปเมื่อหลายวันก่อนอีกด้วย ภาพตัดกลับมาที่สองหนุ่มซึ่งตอนนี้เหงื่อท่วมตัว มือสองข้างทุ่มเทชักว่าวใช้นิ้วถูไถหัวควยอย่างร้อนรน ทั้งคู่ขับเคี่ยวไม่มีใครยอมใคร จนในที่สุดดาราหนุ่มหล่อตัวเกร็งสะท้านเฮือกทรวงอกยุบยวบ น้ำเงี่ยนขาวไหลออกจากรูเยี่ยวแบบแกน ๆ  แม้จะไม่พุ่งกระฉูดแต่ก็ถือว่าเป็นผู้ชนะ แล้วสิ่งที่ทำให้สามสิงห์ของเราตัวเย็นวาบโดยเฉพาะอติรุจที่ควยโด่สวนทางกับภาพหวาดเสียวก็คือ นักว่ายน้ำหนุ่มตาเหลือกถลน โค้งตัวมือกุมเป้าแดงฉาน เลือดสด ๆ ไหลทะลักเป็นลิ่ม ๆ ผ่านง่ามนิ้วออกมา  ก่อนกล้องจะโคลสอัพไปที่โถกระเบื้องขาวสะอาดที่บัดนี้เต็มไปด้วยเลือดและควยหลายดุ้น
“ผมจะไปช่วย....”  ก้องภพตะโกนผลุนผลันจะออกไป แต่ถูกอติรุจห้ามไว้
“ช่วยยย...มึงรู้เหรอว่าพวกเขาอยู่ไหน...ใจเย็น ๆ สิวะ”  พอโดนท้วงก้องภพก็เย็นลง ดูคลิปต่อราวกับว่าอาจจะเห็นเบาะแสจากคลิปก็ได้  ในจอโทรศัพท์ ดาราหนุ่มที่เป็นผู้ชนะลุกเดินสะโหลสะเหล ส่วนนักว่ายน้ำหนุ่มที่ไม่ได้สติถูกลำเลียงกลับหลังเวที  ถึงคราวพงศกรกับไอ้ยอดเพชรนักข่าวมีห่วงเหล็กพิฆาตรัดโคนควยนั่งประจำที่  แม้จะเป็นห่วงและหวาดเสียวแต่ก้องภพก็รู้สึกโล่งอกที่อย่างน้อยพี่ชายทั้งสองไม่แข่งกันเอง เพราะถ้าแข่งกันเองอย่างน้อยไม่ใครก็ใครควยต้องกุดแน่ ๆ คิดพลางมองดูพี่พงกับไอ้ยอดที่มีข้อความ  “เจ้าชู้หน้าหม้อ”  บนหน้าอก หน้าซีดหวาดกลัวสุดขีดแต่ก็ยังฝืนใจชักว่าวเพื่อรักษาความเป็นชายของตัวเองเอาไว้อย่างสุดความสามารถ  เพื่อรักษาควยตัวเองทั้งคู่ไม่มีใครยอมใครราวกับเป็นคู่แข่งมาทั้งชีวิต พงศกรชักว่าวไปใจก็คิด  เขาจะตายที่นี่ไม่ได้ลูกที่เพิ่งเกิดจะขาดพ่อไม่ได้ สองมือจับควยรูดอย่างเร่งร้อนจนควยเริ่มพองตัวเป็นสัญญาณที่ดี ทำให้ก้องภพอดลุ้นเอาใจช่วยพี่ชายตัวเองไม่ได้  ส่วนไอ้ยอดเพชรที่ฟันผู้หญิงมานับไม่ถ้วนก็ไม่ยอมแพ้ รีบกระตุกควยสาวขึ้นสาวลงจนควยเริ่มแข็ง แต่พงศกรที่ออกตัวเร็วกว่าส่งเสียงครางอือ ๆ ในลำคอเหมือนใกล้แตกเต็มทีก็ทำให้ไอ้ยอดเสียววาบพยายามเร่งแต่ก็ไม่ทัน  มันใจหายวาบหล่นไปที่ตาตุ่มเมื่อได้ยินเสียงร้องของคู่แข่ง
“อ๊ากกกก...อูยยยเอ๊าะ ๆๆๆ...อื๊อออสส์...น้ำแตกแลล้ววว”  พงศกรร้องบอกลิงโลดไม่มีน้ำแตกครั้งไหนที่มีความสุขเท่าครั้งนี้อีกแล้ว  เขาแทบจะกระโดดไชโยด้วยซ้ำที่ยังรักษาควยเอาไว้ได้  ในขณะที่ควยมีชื่อย่อ  ย. พ. (ยอดเพชร)  ก็หล่นตุ๊บลงไปรวมกับควยหลากดุ้นในโถกระเบื้องที่เกือบเต็มทันควัน  ไอ้นักข่าวเจ้าเล่ห์ร้องเหมือนควายถูกเชือด หน้าซีดเหงื่อแตกพลั่กก่อนจะหมดสติจากการเสียเลือดมากเกินไป  อติรุจทั้งสามกลืนน้ำลายเอื๊อกใจนึงก็โล่งอกที่พงศกรเป็นฝ่ายชนะ อีกใจก็สงสารไอ้ยอดเพชรแม้จะไม่ค่อยชอบขี้หน้าแต่เมื่อเห็นมันโดนตัดควยทิ้งก็อดเห็นใจไม่ได้  แล้วก็ถึงคิวก้องหล้ากับเฮียหมูซึ่งเป็นคู่สุดท้าย 
“อย่าทำกู...กูกลัวแล้ววว...อย่าทำกู...”  เฮียหมูกอดขาเก้าอี้แน่นเป็นตายยังไงก็ไม่ยอมมานั่งประจำที่ แต่เมื่อโดนไฟช็อตก็หมดฤทธิ์ ถูกลากมานั่งบนเก้าอี้พร้อมกับห่วงเหล็กรัดโคนควยแนบแน่นพร้อมทำงาน ก้องหล้าเองก็ใช่ว่าไม่กลัวแต่ยังเก็บอาการไว้ได้ พอได้เวลาก็ตั้งหน้าตั้งตาชักว่าวเพื่อควยตัวเองกันจ้าละหวั่น  อติรุจและพวกสูดลมหายใจอึดอัด นึกไม่ถึงว่าพวกหม้ายดำจะคิดวิธีแปลกพิสดารมาท้าทายผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างเขา ในขณะที่ก้องหล้ากับเฮียหมูพยายามอย่างสุดชีวิตเพื่อจะช่วงชิงชัยชนะที่สำคัญที่สุดในชีวิต  ควยใหญ่ในกางเกงอติรุจกลับขยายตัวตื่นเต้นไปกับฉากเร้าใจตรงหน้าอย่างไม่อาจห้ามใจจนเป้ากางเกงโป่งนูน ก้องหล้าแม้จะตื่นเต้นหวาดกลัวเพราะมีความเป็นชายเดิมพัน แต่ความที่ยังหนุ่มแน่นและชอบถ่ายอวดเรือนร่างบึกบึนหล่อเหลาลงไอจีล่อสาว ๆ เป็นประจำดูจะมีภาษีดีกว่าเฮียหมูที่อายุมากกว่า แถมร่างกายที่อ่อนเพลียจากโดนไฟช็อตก็ทำให้ควยไม่ค่อยตอบสนอง ชักว่าวไปได้สักพักก็เริ่มเห็นแววผู้ชนะรำไร ก้องหล้าสาวมือกระตุกควยถี่ยิบปากร้องคราง
“อืออออออ...ซี้ดดดสส์...ๆๆๆๆ...ออฟฟสส ....ซี้ดดดส์...นะ...นน้ำแตกกกกกแลลล้ววว”  เขากัดฟัน ในเสียงร้องมีความยินดี กระแทกมือรูดหัวควยบานถลกถอกหนังหุ้มใช้นิ้วรูดคลึงเส้นสองสลึงรัว ๆ ๆๆๆๆ จนร่างกำยำเกร็งเฮือก น้ำเงี่ยนสายยาวก็พุ่งกระฉูดปรี๊ด ๆๆๆๆ...พร้อมกับเสียงถอนหายใจโล่งอก  ส่วนเฮียหมูที่ยังไปไม่ถึงไหนตาเหลือกค้างหยุดกึกรู้อนาคตตัวเอง  มือยังกุมควยอยู่พอสิ้นเสียงมีดคมกริบตวัดสองจังหวะฉับ ๆ  แกก็สะดุ้งสุดตัวเสียววาบที่โคนควย พอคิดได้จะคว้าของรักไว้ก็ไม่ทันการ  พอเห็นควยตัวเองหล่นวูบตามแรงโน้มถ่วงลงไปยังโถกระเบื้องด้านล่างเท่านั้นก็แหกปากร้องโหยหวน
“อ๊ากกกกกก....ควยยยยยกู..ควยยยยกู....ช่วยด้วยยยยย...ๆๆๆ..”  เฮียหมูลนลานเอื้อมมือไขว่คว้าแต่ก็ได้เพียงเลือดสด ๆ ที่ฉีดกระเซ็นซ่านไปทั่วหัวเหน่า และวินาทีที่คมมีดตวัดแยกควยออกจากร่างเฮียหมู  อติรุจก็แหงนหน้าเม้มปากกระตุกเบา ๆ ความเสียวที่สั่งสมอัดแน่นจนไข่แฝดปวดระบมก็พุ่งวาบเป็นจุดสุดยอดที่ถึงโดยไม่ได้กระตุ้นสัมผัสด้วยซ้ำ เขานั่งหน้าแดงก่ำหายใจหนักหน่วงปล่อยให้น้ำเงี่ยนคาวจัดไหลทะลักออกจากลำควยระลอกแล้วระลอกเล่าเปียกเป้ากางเกงตำรวจแม้กระทั่งง่ามตูดก็เลอะเนืองนองไปด้วยน้ำกามจำนวนมหาศาล...............................







หลังจากรู้ว่าพี่ชายทั้งสองถูกพวกหม้ายดำจับตัวไป ก้องภพก็ว้าวุ่นใจถึงขั้นจะยกเลิกงานแต่ง แต่อติรุจกับปราการเกลี้ยกล่อมชี้ให้เห็นถึงผลเสียและความยุ่งยากเพราะได้เตรียมการทุกอย่างไว้หมดแล้ว  ก้องภพจำนนต่อเหตุผลจึงยอมแต่งงานโดยไม่บอกยูริเพราะกลัวเป็นห่วง แม้แต่ผู้การเพลงรบก็ถูกปิดบัง  กษัตริย์วาดิมเมื่อรู้ข่าวจึงเสนอผ่านกัปตันอังเดรขอเป็นเจ้าภาพจัดการเรื่องสถานที่และค่าใช้จ่ายในการจัดงานแต่งให้เพื่อเป็นการแสดงน้ำใจและสินบนในคราวเดียว เพื่อผูกมัดพวกสามสิงห์ให้ทุ่มเทช่วยเหลือเจ้าชายมาร์ตินให้เต็มที่ ก้องภพหลังจากปรึกษาพี่ทั้งสองซึ่งไม่เห็นด้วย แต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับความหวังดีเพราะผู้การเพลงรบขอร้อง  งานแต่งเล็ก ๆ ถูกจัดขึ้นอย่างง่าย ๆ ที่รีสอร์ทส่วนตัวริมทะเล มีแต่ญาติผู้ใหญ่และเพื่อนสนิทที่มาร่วมยินดี หลังงานพิธีเสร็จสิ้นญาติและเพื่อนสนิทก็ทยอยเดินทางกลับ ก้องภพขัดเพื่อน ๆ ตำรวจที่อยากจะฉลองโสดเป็นครั้งสุดท้ายไม่ได้ก็ย้ายจากห้องจัดเลี้ยงมาห้องส่วนตัว ซึ่งผู้การเพลงรบ ผู้การเลือดไท กัปตันอังเดร แสน อติรุจ ปราการและเหงียนดุยโฮได้รับเชิญด้วย  ส่วนเจ้าสาวถูกพาขึ้นห้องไปพักก่อนแล้ว  พวกเพื่อนตำรวจที่ดื่มไปบ้างตอนงานเลี้ยงเริ่มมีอาการมึน ๆ แต่ยังสนุกติดพัน จัดการผสมเหล้าโซดาคะยั้นคะยอให้ก้องภพดื่ม
“พอ ๆ แล้ว..เดี๋ยวไอ้ว่านไม่ได้ทำหน้าที่เจ้าบ่าว”  ปราการปรามติดตลกเพราะก้องภพดื่มไปหลายแก้วแล้ว แต่แสนกลับนึกสนุกเห็นดีเห็นงามคะคั้นคะยอก้องภพให้ดื่ม ก้องภพเกรงใจก็ดื่มไปนิดหน่อย  เหงียนดุยโฮตาเป็นประกายเมื่อเหล้าไหลผ่านลำคอก้องภพ ก็ชั่วโมงที่แล้วเขาเองเป็นคนผสมยาน้ำสีม่วงอ่อนใส่เหล้าขวดนี้ตามคำสั่งหม้ายดำกับมือ นอกจากก้องภพและเพื่อนตำรวจสิบนาย ก็มีผู้การเพลงรบอีกคนที่ทนถูกลูกน้องรบเร้าไม่ไหวเผลอจิบเหล้าไปสองสามอึก ส่วนคนอื่น ๆ ที่ดื่มกันคนละแก้วสองแก้วก่อนหน้าไม่ได้ดื่มอีก................ระหว่างที่งานเลี้ยงกำลังดำเนินไปอย่างสนุกสนาน อติรุจที่เห็นก้องภพเริ่มทรงตัวไม่อยู่ก็อาสาพาเจ้าบ่าวไปส่ง ผู้การเพลงรบ เลือดไท กัปตันอังเดร รวมทั้งแสน ปราการและเหงียนดุยโฮก็ถือโอกาสขอตัวไปพักผ่อน เหลือเพียงนายตำรวจสิบนายที่ยังดื่มกินกันอย่างเต็มที่  อติรุจประคองก้องภพเหลือบดูเวลาเมื่อเห็นว่าเกือบตีสองก็เกรงใจยูริ ตัดสินใจพาก้องภพเข้าไปนอนอีกห้อง พอหัวถึงหมอนก้องภพก็หลับปุ๋ย อติรุจเองที่เหนื่อยมาทั้งวันแม้จะดื่มไปเพียงเล็กน้อยก็ผล็อยหลับไปด้วยเช่นกัน ทั้งคู่หลับได้ประมาณชั่วโมงเศษ  อติรุจก็กลิ้งหลุน ๆ ถูกก้องภพถีบตกเตียง
“พลั่ก”  เขาสะดุ้งตื่นงัวเงีย  เห็นเงาตะคุ่มบนเตียงขยับดิ้นเตะถีบวุ่นวายก็แปลกใจ ร้อยวันพันปีไอ้ว่านไม่เคยนอนดิ้นทำไมวันนี้ถึงนอนดิ้นยังกับเจ้าเข้า คิดแล้วก็อยากจะเตะไอ้ตัวแสบสักป้าป แต่เมื่อเห็นก้องภพยังดิ้นบิดอยู่บนเตียงก็รู้สึกผิดปกติ รีบเปิดไฟดูก็ตกตะลึง เห็นก้องภพตาเหลือกค้างมือนึงกุมตูดอีกมือกุมท้อง
“ไอ้ว่าน ๆๆๆ เป็นอะไรวะ..ไอ้ว่าน”  เมื่อเห็นก้องภพดิ้นพราด ๆๆ พยายามฉีกกระชากเสื้อผ้าตัวเองไม่หือไม่อือก็ตกใจ คว้ากุญแจรถกะจะพาไปส่งโรงพยาบาล ทันใดหน้าจอโทรศัพท์ก็สว่างวาบสัญญลักษณ์แมงมุมแม่หม้ายดำที่เขาเห็นจนชินตาปรากฎขึ้น  อติรุจรีบกดดูทันที
“แกมีเวลาสามชั่วโมงที่จะช่วยชีวิตไอ้ก้องภพ” คือข้อความที่ตามด้วยกลบทโบราณอีกสองแถว  แม้จะเป็นข้อความสั้น ๆ แต่ก็ทำให้อติรุจตัวเย็น  เขากดดูคลิปวีดีโอที่แนบมาด้วย ดูไปขนหัวขนหมอยลุกตั้งชัน  ชายหนุ่มเปลือยเปล่าในภาพดิ้นทุรนทุรายมีสภาพไม่ต่างจากก้องภพแม้แต่น้อย ที่สำคัญมุมซ้ายของจอภาพมีนาฬิกาดิจิดอลคอยบอกเวลาอยู่ด้วย  และเมื่อครบสามชั่วโมงชายหนุ่มที่ดิ้นพราดก็กระตุกเฮือกหมดสติปลดปล่อยลมหายใจเฮือกสุดท้ายพอดิบพอดี  อติรุจวางกุญแจรถ ควานหาปากกากับกระดาษ รีบลงมือถอดกลบทที่เรียนจากจุ๊บอย่างรวดเร็ว เขาใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีข้อความที่ทำให้ยอดนายตำรวจมือปราบอย่างเขาเสียวสันหลังวาบก็ปรากฎให้เห็น
“สามสวาทพิษร้ายวายชีวิต          ค่อยค่อยคิดวิธีมีทางแก้
สามธาราเพศบุรุษฉุดดวงแด      เป็นตัวแปรฟื้นจิตชีวิตคืน” 

เรื่องเสียวสไตล์ BBrock

สามสิงห์สยบไพรี ตอนที่ 20