Friday 5 October 2018

สามสิงห์สยบไพรี ตอนที่ 15








“ชั้นทำอะไรลงไป  ๆๆๆๆๆ...ฮือ ๆๆๆๆๆ...คุณพี่ๆๆๆ..ๆๆ”  คุณหญิงรุจียืนพร่ำเพ้อรำพันเหมือนคนเสียสติ มือกำควยผัวรักไว้แน่น ในขณะที่ร่างผู้การเพลงรบโดนลำเลียงขึ้นรถพยาบาล
“เพี๊ยะ..ๆๆๆ..คุณหญิง..ๆๆ”  เสียงมือกระทบแก้มดังสดใส คุณหญิงจอมโหดกระพริบตาถี่ ๆ ตื่นจากภวังค์ด้วยแรงตบที่ก้องภพจงใจใส่ความหมั่นไส้มาในฝ่ามือด้วย  หล่อนเบิกดวงตากลมโตมองหน้าขาวหล่อเหลาตรงหน้าอย่างงง ๆ ก่อนจะโดนก้องภพกระชากดุ้นเนื้อยัดใส่ถังน้ำแข็งอย่างรวดเร็ว...............
ข่าวบุญมาโดนจับตัวไปสร้างความปั่นป่วนให้กับมุกประดับและเด่นเดือนเป็นอย่างมาก
“ไอ้ก้องภพ”  เด่นเดือนครางเดือดดาล นอกจากแค้นก้องภพแล้วยังโกรธอติรุจอีกด้วย อดยกมือคลำโหนกแก้มที่โดนเขม่าดินปืนฝังแน่นไม่ได้ นึกแปลกใจตัวเองที่ความรักที่มีให้อติรุจเหือดหายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เวลานี้หล่อนมีแต่ความแค้น ๆๆๆ สุมอกโดยเฉพาะก้องภพที่ทำให้หล่อนต้องพิการไปตลอดชีวิตจนพวกลูกน้องเข้าหน้าไม่ติด มีแต่มุกประดับที่เยือกเย็นกว่าคอยเตือนสติพร้อมกับเผยแผนการร้ายที่จะจัดการกับพวกตำรวจต่อไป.............ด้วยเทคโนโลยีการแพทย์ขั้นสูง  การปลูกเนื้อเยื่อต่อองคชาติให้กับผู้การเพลงรบประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม  หมอธรรม์ถอดถุงมือระบายลมหายใจยาวเดินออกจากห้องผ่าตัดที่มีตำรวจสองนายคอยให้ความคุ้มกันอย่างเข้มแข็ง
“เรียบร้อยแล้วครับท่าน”  เขาบอกกับนายพลเลือดไทที่รออยู่ด้านนอกพร้อมอติรุจทั้งสาม
“ต้องขอชมผู้กองนะครับที่มีสติรีบแช่องคชาติกับน้ำแข็งเพื่อรักษาเซลล์ไว้”  หมอธรรม์กล่าวกับอติรุจสีหน้าชื่นชมในไหวพริบของนายตำรวจรูปหล่อ
“แน่นอนครับ  พี่รุจของผมเก่งอยู่แล้ว”  ก้องภพเสนอหน้าจนโดนผู้การเลือดไทปรามด้วยสายตา
“ถ้าแผลไม่ติดเชื้อ อาทิตย์หน้าก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วครับ”  หมอหนุ่มบอกเป็นการจบบทสนทนาเพราะงานยังมีอีกมาก
“ขอบคุณคุณหมอมากนะครับ”  ผู้การเลือดไทบอกก่อนจะขอตัวกลับ พร้อมกับสั่งให้อติรุจจัดการส่งบุญมาที่ถูกจับได้เข้าไปอยู่กับพวกนักโทษเดนตาย
“แต่เบื้องบนบอกให้แยกขังนะครับท่าน”  ปราการปากคันอดทะลุกลางปล้องไม่ได้
“คุณจะเชื่อผมที่เป็นเจ้านายโดยตรงหรือจะเชื่อใคร...เอามันขังรวมตามที่สั่ง”  ผู้การหน้าคมสั่งเสียงดุดันหันหลังเดินตัวตรงเป๊ะจากไป
“ขังก็ขังดิวะทำเป็นเก๊ก”  ปราการบ่นอุบ
“นั่นดิ  แม่งโคตรเก๊ก ผู้การเพลงรบกลับมาเมื่อไหร่ไอ้นี่จ๋อยแดกแน่” ก้องภพเข้ามาโอบไหล่พี่ชายช่วยด่าอีกคน......................
โรงอาบน้ำที่เป็นลานซีเมนต์หยาบ ๆ รอบ ๆ บ่อซีเมนต์ที่มีน้ำสีขุ่นรายล้อมด้วยนักโทษชายฉกรรจ์แก้ผ้ายืนอวดเรือนร่างบึกบึนที่เต็มไปด้วยรอยสักจ้วงน้ำอาบเสียงดังซู่ซ่า หนึ่งในนั้นก็คือบุญมา มันแทรกเข้ามาหยิบขันตักน้ำราดรดร่างแกร่งกำยำที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามและรอยสักที่ไม่แพ้ใคร แม้จะตกอยู่ในสภาพนี้ก็ยังควบคุมสติได้ดี รู้สึกผิดคาดที่ไม่ได้ถูกสอบสวนอย่างที่ควรจะเป็น  น้ำขันแล้วขันเล่าไล่ความร้อนอบอ้าวจนรู้สึกสดชื่นขึ้นบ้าง หยิบสบู่ถูหัวขยำขยี้จนฟองสบู่ไหลย้อยเต็มหน้าเต็มตา ไม่ทันเห็นเพื่อนนักโทษข้าง ๆ บรรจงหยิบสบู่ก้อนใส่ผ้าขนหนูสะบัดบิดเป็นเกลียวสองสามรอบ เท่านี้สบู่ที่ใช้ชำระสิ่งสกปรกก็กลายสภาพไม่ต่างจากลูกตุ้มเหล็ก  นักโทษคนอื่นที่ไม่อยากมีเรื่องและเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นทยอยออกจากโรงอาบน้ำ เหลือเพียงชายฉกรรจ์หน้าตาเหี้ยมเกรียมสี่คนที่สองในนั้นถือลูกตุ้มสบู่เดินเข้าหาบุญมาที่ยังไม่รู้ชะตากรรมตัวเอง
“พลั่ก”  แรงถีบจากด้านหลังดังสนั่นจนร่างเปลือยของบุญมากระแทกกับขอบซีเมนต์โดยเฉพาะพวงกระโปกที่โดนอัดจนตัวงอ
“โอ๊คคคคค”  มันร้องเสียงหลงพลิกตัวเอาหลังพิงบ่ออาบน้ำตามสัญชาติญาณ ยกมือปาดฟองสบู่ออกตั้งท่าเตรียมต่อสู้ แต่ก็ไม่ทันเพราะตาที่ยังลืมไม่เต็มที่ทำให้หลบก้อนสบู่ที่เหวี่ยงเข้าหน้าเต็ม ๆ  ไม่พ้น ร่างบึกเหมือนควายทุยถลาล้มดังโครม โชคดีที่มีประสบการณ์ต่อสู้มาอย่างโชกโชน มันรีบเบี่ยงตัวหลบตีนที่เดาว่าต้องตามกระทืบซ้ำได้ทันท่วงที  ลุกขึ้นโซเซสะบัดหัวไล่ความมึนงงหันหลังพิงบ่อซีเมนต์ตามเดิม แต่ก็ไม่พ้นตีนอีกข้างที่ถีบหน้าท้องดังพลั่กจนพวงกระโปกใหญ่สั่นกระเพื่อมตามแรงถีบ
“อ๊ออออค”  น้ำจากกระเพาะไหลย้อนจนปากคอขม ใบหน้าคมสันแบบชายไทยโดนลูกตุ้มสบู่ฟาดซ้ายฟาดขวาจนเริ่มบวม  การโดนจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัวทำให้บุญมามือดีของแก๊งค์หม้ายดำหมดโอกาสตอบโต้  ได้แต่ยืนปิดป้องต้านพายุตีนที่ระดมเข้าใส่เป็นพัลวัน ก้มหน้าก้มตาหลบหมัดกับลูกตุ้มสบู่  แต่ควยกับไข่ที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ก็โดนอัดยับทั้งถีบทั้งยันตุ๊บ ๆ ตั๊บ ๆ จนหน้าเขียวคล้ำจุกเสียดบอกไม่ถูก ส่วนใบหน้าลำตัวก็ถูกลูกตุ้มสบู่กับหมัดจับจองจนไม่เหลือที่ว่าง
“ปั๊ก ๆ ปุ๊ก ๆ  อ๊ออกก...ตุ๊บตั๊บ อื๊ออออ...ๆๆๆ”  เสียงลูกตุ้มสบู่ฟาดเนื้อกับเสียงร้องดังระรัวอยู่นานเกือบสิบนาที  ตามลำตัวใบหน้าโดนกระหน่ำด้วยลูกตุ้มสบู่ฟาดจนน่วมปูดโปน  และสุดท้ายที่ทำให้ไอ้บุญมาหุ่นควายทรุดก็คือเข่าที่กระแทกเข้ามาอย่างรวดเร็วกระทุ้งเข้าพวงสวรรค์อย่างจังจนหน้าบิดเบี้ยว สองมือละจากใบหน้ามากุมเป้าตาเหลือกชักกระตุกน้ำลายไหลยืด แต่ก่อนที่ร่างมันจะล้มคว่ำ หนึ่งในสี่นักโทษก็ปราดเข้ามาจิกผมจนหน้าหงาย
“นึกว่าจะแน่...”  มันเยาะเย้ยถุยน้ำลายใส่หน้าก่อนจะเข่าลูกกระโปกบวมอีกที
“อ๊ากกก”  ร่างบุญมาไถลลงไปกองกับพื้น หายใจหนักหน่วงแต่ลมหายใจยังไม่ทันเข้าเต็มปอด ความเป็นชายก็โดนตีนเหยียบอีกรอบ พลันภาพผู้การเพลงรบที่มองมันด้วยความหวาดกลัวก็วาบเข้ามาในสมอง นึกไม่ถึงว่ากรรมจะติดจรวดเร็วปานนี้ ส้นเท้าที่ค่อย ๆ กดจนไข่ปลิ้นทำเอาหัวมันชาหวิว ๆ เด้งตัวใช้สองมือพยายามยกตีนที่สร้างความเจ็บปวดแสนสาหัสออกไป แต่ก็ไม่เป็นผล ไอ้หนุ่มร่างยักษ์แสยะยิ้มยกตีนขึ้นแล้วกระทืบพวงไข่เต็มแรง
“อ๊ากกกกกกกกก”  บุญมาตาเหลือกถลนเหมือนปลาถูกทุบหัว  ดิ้นทุรนทุรายคิดไปเองว่าไอ้นักโทษพวกนี้คงถูกส่งมาเพื่อแก้แค้นที่มันทำกับนายตำรวจใหญ่เพลงรบ แต่คำพูดที่ได้ยินทำให้มันไม่แน่ใจ
“ไอ้กระจอก..เสือกสะเออะแย่งของรักนายกู...นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น...ถุยยยยสส์”  ไม่ทันขาดคำน้ำลายก้อนใหญ่ก็พุ่งวาบใส่หน้ามันอย่างแม่นยำ.................หลังจากวันนั้นบุญมาก็ระวังตัวมากขึ้น แต่กระนั้นก็ยังโดนซ้อมรายวัน  ความเจ็บปวดทางร่างกายทำให้ความอาจหาญฮึกเหิมถูกลดทอนไปอย่างมาก  จากข้อมูลที่ได้จากนายหญิงมุกประดับ ในกรมตำรวจไม่เพียงมีสายของหม้ายดำ สายที่ว่ายังมีตำแหน่งใหญ่โตอีกด้วย คิดแล้วก็คิดไม่ออกว่าทำไมสายที่ว่าไม่ให้ความช่วยเหลือ ปล่อยให้มันโดนซ้อมเจียนตายทุกวัน  เมื่อคิดไม่ออกก็ได้แต่เก็บงำความแค้นและความสงสัยไว้ว่าใครที่บงการนักโทษพวกนี้ให้มาเล่นงานมัน..............
เด่นเดือนเมื่อได้ยินแผนการของพี่สาวก็ตาโต รู้สึกทึ่งในความคิดที่แยบคายลึกซึ้งของมุกประดับซึ่งเปรียบเสมือนนางพญาแมงมุมที่มีพิษสงรอบตัว
“ตอนนี้พวกมันคงระมัดระวังตัวกันมากไม่สะดวกกับการลงมือ” มุกประดับบอกน้ำเสียงเยือกเย็น
“แล้วเราจะทำยังไงคะ...เดือนคลั่งจะตายอยู่แล้วนะคุณพี่”  เด่นเดือนที่ใจร้อนดั่งไฟหงุดหงิด
“ใจเย็นสิจ๊ะ...ทำอะไรพวกมันไม่ได้แต่เราทำกับคนที่มันรักได้นี่”  คือคำตอบที่ทำให้เด่นเดือนยิ้มได้
“จริงสิ”  เด่นเดือนตาวาววามหยิบแฟ้มรายชื่อที่มุกประดับส่งให้  ยิ้มเหี้ยมให้กับเวลาแห่งการล้างแค้นที่จะเริ่มขึ้นในไม่ช้า..................ห้าวันหลังจากการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อตัดต่อองคชาติ  ด้วยความมหัศจรรย์ของการแพทย์ และร่างกายที่แข็งแรงทำให้อาการของผู้การเพลงรบดีขึ้นเป็นลำดับ ท่ามกลางการอารักขาอย่างเข้มงวด รายชื่อผู้ขอเข้าเยี่ยมจึงถูกคัดกรองอย่างเข้มข้น หนึ่งในนั้นก็คือชายหนุ่มหน้าตาดีร่างสูงสมาร์ทที่เข้ามาในห้องซึ่งคุณหญิงรุจีกับผู้การเลือดไทเฝ้าอยู่ก่อน  พอเห็นหน้าเท่านั้น คุณหญิงรุจีก็สะบัดหน้าพรืดกระแทกส้นเท้าสวนทางออกไปทันที เช่นเดียวกับผู้การเลือดไทที่ยกมือรับไหว้ตบบ่าเขาเบา ๆ ก่อนจะเดินตามคุณหญิงออกไป
“คุณพ่อเป็นยังไงบ้างครับ”  เขาถามเสียงทุ้ม
“หมอบอกดีขึ้นมากแล้ว...รบ...พ่อดีใจนะที่แกมาเยี่ยม”  เพลงรบกุมมือรบหรือกลองรบชายหนุ่มวัยยี่สิบหกซึ่งเป็นลูกชายคนเดียวแม้จะเป็นลูกนอกสมรสก็ตามที  ไม่แปลกใจเลยที่คุณหญิงรุจีจะแสดงท่าทีรังเกียจ จะว่าไปคุณหญิงนั่นแหละที่มาทีหลังแต่ด้วยอำนาจของทะเบียนสมรสทำให้หล่อนกลายเป็นเมียหมายเลขหนึ่งไปโดยปริยาย  ไม่เพียงคุณหญิงรุจีจะรังเกียจชายหนุ่มเท่านั้น  เขาเองก็ไม่ให้ความเคารพหล่อนเช่นกัน ยิ่งพ่อเจ็บคราวนี้เป็นเพราะฝีมือหล่อนด้วยแล้วหน้าเขาก็ไม่อยากมอง  พ่อลูกใช้เวลาที่หายากเหลือเกินถามไถ่ทุกข์สุขกันพักใหญ่ กลองรบก็ขอตัวกลับ หลังขับรถออกจากโรงพยาบาลไม่นานเขาก็พบหญิงสาวคนนึงกำลังยืนโทรศัพท์ท่าทีร้อนใจข้างรถที่จอดเสียอยู่ ด้วยความที่ถูกอบรมมาอย่างดีเป็นสุภาพบุรุษทุกกระเบียดนิ้วที่ค่อนข้างจะหัวอ่อนด้วยซ้ำ เขาจอดรถเพื่อให้ความช่วยเหลือทันที   
“มีอะไรให้ผมช่ว....ยไหมครับ”  น้ำเสียงเขาชะงักงันเมื่อหญิงสาวในชุดทันสมัยหันหน้ามา  ดวงหน้าหวานซึ้งมีแววเด็ดเดี่ยวเล็ก ๆ ทำให้ชายหนุ่มร้อนวูบวาบเหมือนกลับไปเป็นวัยรุ่นอีกครั้ง กามเทพตัวน้อยแผลงศรเข้าที่หัวใจเขาอย่างจัง
“รถยางแบนนะคะ...เดือนกำลังรอช่างอยู่”  หล่อนตอบเผลอเรียกชื่อตัวเองออกมาอย่างน่ารักที่สุด  กลองรบยิ้มละมุนแต่เมื่อเห็นเธอขยับตัวด้วยเท้าที่กระเผลกน้อย ๆ ก็ตกใจปนเสียดาย อดเห็นใจเธอที่พระเจ้าประทานความงามให้แล้วแต่กลับหยิบยื่นข้อบกพร่องให้ด้วยเช่นกันไม่ได้ เขาเหม่อมองจนหล่อนร้องทัก
“มีอะไรหรือเปล่าคะ  หรือว่ามีดอกไม้งอกบนหน้าเดือน”  หล่อนพูดกลั้วหัวเราะ น้ำเสียงเบิกบานไม่มีความตัดพ้อต่อข้อบกพร่องของตัวเองแม้แต่น้อย นั่นยิ่งทำให้ศรของกามเทพปักลึกเข้าไปในหัวใจอย่างถอนไม่ขึ้น  รักแรกพบบังตาเขาจนมองข้ามข้อบกพร่องเรื่องขาของหล่อนเสียสิ้น  จากข้อมูลเชิงลึกของชายหนุ่มหล่อเหลาลูกชายผู้การเพลงรบคนนี้  เด่นเดือนมั่นใจว่าหล่อนสามารถใช้ความสวยและเซ็กส์สยบได้ไม่ยากซึ่งก็เป็นไปอย่างที่หล่อนคาดไว้จริง ๆ  กลองรบจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความรู้สึกวาบหวาม  แม้ว่าจะผ่านผู้หญิงมาหลายคน แต่ก็ไม่เคยมีความรู้สึกอย่างนี้กับใครมาก่อน ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นโชคหรือคราวเคราะห์ของเขากันแน่ที่มาตกหลุมรักนังแมวป่าเด่นเดือนในคราบลูกแมวน้อยแสนน่ารักนางนี้................ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เติบโตเบิกบานยิ่งกว่าต้นไม้ได้ปุ๋ยซะอีก จากความเป็นเพื่อนพัฒนาเป็นความรักอย่างรวดเร็ว เห็นเขาที่ไหนต้องเห็นหล่อนที่นั่น แต่จนแล้วจนรอดหล่อนก็ไม่มีโอกาสได้พบพ่อของเขาซักที ทุกครั้งที่นัดแนะกันมักเกิดเหตุขัดข้องทุกครั้ง และเพราะความรักที่เขามีให้หล่อนมากเกินไปนั่นเองจึงทำให้ไม่เห็นเป็นเรื่องแปลกแม้แต่น้อย..............เด่นเดือนใช้เซ็กส์อันเร่าร้อนปรนเปรอมอมเมาไก่อ่อนสอนขันอย่างกลองรบจนอยู่มือ ไม่ว่าหล่อนจะทำอะไรเขาก็เห็นดีเห็นงามด้วยทุกอย่างเรียกว่าชี้นกเป็นไม้ชี้ไม้เป็นนกทีเดียว ความสัมพันธ์อันลึกซึ้งทำให้เขารู้ว่าเท้าที่พิการของหล่อนไม่ได้เป็นมาแต่กำเนิดแต่เป็นเพราะความผิดพลาดของตำรวจที่ฝากตราบาปให้กับหล่อน แน่นอนเรื่องราวที่ถูกเสกสรรปั้นแต่งจนน่าเชื่อโยนความผิดทั้งมวลให้กับก้องภพคนเดียว ซึ่งกลองรบที่โดนครอบงำด้วยความรักจนหูตามืดบอดก็เชื่อโดยสนิทใจ ความเกลียดชังในตัวก้องภพที่ไม่ต่างกับเมล็ดพันธุ์พิษถูกเด่นเดือนหว่านลงไปในจิตใจอันอ่อนโยนของกลองรบอย่างแยบยลที่สุด..........................





ชายหนุ่มมาดแมนหล่อเหลาในสูทสีเข้มปิดโทรศัพท์ขับรถมุ่งไปยังบาร์สุดหรูกลางเมือง พอไปถึงก็เห็นชายหนุ่มที่นัดหมายยืนเกร่อยู่ด้านหน้า  หลังจอดรถเสร็จเขาเดินอ้อมมาตบบ่าชายหนุ่มที่อ่อนวัยกว่า
“ทำไมไม่เข้าไปวะไอ้น้องชาย” 
“โธ่..รู้แล้วยังจะมาถามพี่พง...ใครจะโชคดีอย่างพี่ละได้เมียสวยแถมรวยอีกต่างหาก...ลำพังเงินเดือนตำรวจใช้ชนเดือนก็ถือว่าเก่งแล้วพี่  บาร์แพงระยับขนาดนี้อย่าว่าแต่เดินเข้าไปเลย  แค่เฉียดกระเป๋าผมก็ฉีกแล้ว”  ก้องหล้าน้องชายต่างมารดาของพงศกรนักธุรกิจหนุ่มเนื้อหอมที่กลายเป็นไฮโซคนดังชั่วข้ามคืนเพราะลูกสาวมหาเศรษฐีคว้าเอามาทำผัวบ่นอุบ
“มากับพี่กลัวกระเป๋าฉีกเหรอวะ...ไป ๆๆ”  พงศกรโอบคอน้องชายอารมณ์ดีเดินเข้าไปในบาร์มีระดับที่คลอเคล้าด้วยเสียงดนตรีเบาๆ  เมื่อเลือกที่นั่งสั่งเครื่องดื่มเรียบร้อยสองพี่น้องก็คุยกันไปหูตาก็สอดส่ายเหล่สาวไปด้วย
“พักนี้ได้ข่าวไอ้ว่านมั้ย....ตั้งแต่โทรไปต่อว่ามันเรื่องรูปในหนังสือพิมพ์ก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย สงสัยจะโกรธพี่”  พงศกรถามก้องหล้าที่เป็นพี่ชายแท้ ๆ ของก้องภพ
“ไม่เลยพี่พง  ถึงผมจะเป็นตำรวจ  แต่งานมันคนละแผนกโอกาสเจอกันไม่มีเลย พี่ก็รู้นิสัยไอ้ว่านดีนี่  ถ้างอนละก็ไม่สนหน้าไหนทั้งนั้น”  ก้องหล้าที่มียศร้อยตำรวจโทเหมือนก้องภพบอกแต่สายตากลับจ้องหญิงสาวที่ส่งสายตาหวานให้ไม่วางตา
“ก็รู้อยู่ไอ้น้องคนนี้  นี่ก็ซื้อนาฬิกาให้มันแล้ว.....อะนี่ของเอ็ง”  พงศกรยื่นกล่องนาฬิกาให้น้องชายต่างมารดาที่เขารัก
“โหพี่พง  ขอบคุณคร้าบ”  ก้องหล้ายิ้มรีบตะครุบหยิบนาฬิกาที่ได้ใหม่ใส่ทันทีพลางปรายตาบอกใบ้พี่ชายสุดหล่อเป็นการตอบแทนให้หันไปมองสาวสวยที่มีเพื่อนสุดเซ็กส์มาสมทบอีกคน พอเห็นเท่านั้นสันดานเก่าของพงศกรก็คุกรุ่นทันที  ภายใต้คราบหล่อเหลาดูดี พงศกรก็เหมือนกับผู้ชายทั่วไปที่มีความต้องการจะต่างกันก็ตรงที่แม้จะแต่งงานแล้วแต่ก็ยังชอบหาเศษหาเลยเป็นประจำ นัยว่าการปลดปล่อยกับผู้หญิงอื่นที่ไม่ใช่เมียให้ความตื่นเต้นเร้าใจมากกว่า ทั้งที่คิดห้ามใจแต่ก็ทำไม่ได้ซักที ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน สองสาวที่มีดีกรีความสวยความร้อนแรงระดับท๊อปเดินนวยนาดเข้ามาหาสองหนุ่มอย่างท้าทาย  ไม่นานทั้งสี่ก็อาศัยรถหรูของพงศกรไปยังห้องชุดสุดหรูของพงศกรเช่นกัน  ทันทีที่ปิดประตูสองเสือหนุ่มก็ตะครุบสองแกะน้อยอย่างตะกละ ระดมจูบซุกไซร้ซอกซอนสูดกลิ่นสาวจนแก่นกายกลางตัวแข็งโด่  แต่สองสาวแสนสวยกลับปัดป้องบ่ายเบี่ยง
“เหม็นคะพี่...ทั้งเหล้าทั้งบุหรี่....ขอตัวไปรีเฟรชก่อนนะคะ.... หนูทำใจไม่ได้อะพี่...ถ้าอยากสนุกก็ต้องทำตามกฎเนื้อตัวต้องหอม ปากต้องไม่มีกลิ่นบุหรี่  โอเค๊ ”  หล่อนบอกคว้ากระเป๋าถือเดินเข้าห้องน้ำปล่อยให้สองหนุ่มมองหน้ากันกลั้นหัวเราะ  จากประสบการณ์ที่เจอมาเยอะก็มีครั้งนี้ที่เจอสาวอนามัย  แต่ความยั่วสวาทของพวกหล่อนทำให้สองหนุ่มยอมเดินตามเกม  พอห้องน้ำว่างก็เข้าไปชำระร่างกายตามที่พวกหล่อนบอก
“เอ้า”  พงศกรยื่นแปรงสีฟันอันใหม่ให้ก้องหล้า แล้วสองหนุ่มพี่น้องก็ยืนแปรงฟันทำความสะอาดขจัดกลิ่นเหล้าบุหรี่ ทั้งขำทั้งเงี่ยนใจลอยไปไกลถึงขาอ่อนรำไรกับเนินสวาทที่จะได้ลิ้มรสก่อนจะล้มทั้งยืน  เสียงดังโครมในห้องน้ำทำให้สองสาวที่นอนรอบนเตียงหัวเราะเสียงใส หล่อนไม่ใช่ใครที่ไหน นาเดียกับญาญ่าสมุนกระเทยของเด่นจันทร์ที่เคยมอมยาก้องภพกับอติรุจนั่นเอง เป็นอีกครั้งที่ยาสลบของด๊อกเตอร์สติเฟื่องทำงานอย่างมีประสิทธิภาพหลังจากที่หล่อนหยดใส่ยาสีฟันหลอดนั้นในห้องน้ำเมื่อครู่.......................
หลังจากทำธุระเสร็จแล้ว  สามหนุ่มเพื่อนซี้ก็ขับรถกะจะไปหาอะไรเย็น ๆ ดื่ม แต่อติรุจพลันนึกอะไรได้  ขับรถไปก็มองนาฬิกาข้อมือไปดูกระวนกระวายบ่อยจนปราการอดถามไม่ได้
“มีไรป่าววะไอ้รุจ...” 
“ไม่มีอะไร”  อติรุจโกหก จริง ๆ แล้วมีเรื่องที่คิดไม่ตก อยากให้เพื่อนรักอยู่ด้วยตอนเผชิญหน้ากับสิ่งที่วิตกมาตลอดจึงทำทีเป็นแกล้งถาม
“ใครอยากไปเหล่สาว ๆ มั่งว้า”  เขาเปรยขำ ๆ ก้องภพหูผึ่งทันที
“ไป ๆ พี่รุจ ที่ไหนพี่” 
“สนามบิน”  อติรุจตอบอมยิ้ม
“โธ่..เซ็งเป็ด นึกว่าใจดีจะพาน้องไปเลี้ยง”  ก้องภพต่อว่าแต่ก็ถามต่อ
“ไปทำไมอะพี่หนามบิน” 
แล้วสิ่งที่ก้องภพอยากรู้ อติรุจก็บอกให้ฟังระหว่างทางไปสนามบิน
“ตั้งแต่อายุสิบสามก็ไม่เคยเจอกันเลย  รูปถ่ายก็ไม่มีแล้วมึงจะจำน้องได้เหรอวะ”  ปราการถามเกาหัวแกรก ๆ
“เดี๋ยวเจอก็รู้เอง”  อติรุจบอกเรียบ ๆ รู้สึกไม่ค่อยกระตือรือล้นเท่าไหร่ที่จะเจอน้องชายที่หายสาบสูญไปถึงสิบห้าปี  ก้องภพสัมผัสได้ถึงความไม่สบายใจของพี่ชายสุดหล่อก็นิ่งไม่ถามต่อ จนถึงสนามบิน..........ช่วงหัวค่ำวันหยุดสนามบินเต็มไปด้วยผู้คนทั้งขาออกขาเข้า สามหนุ่มพาร่างสมาร์ทไปยืนรอตรงประตูผู้โดยสารขาเข้า ไม่นานก้องภพก็ทำตาโตหันมองอติรุจแล้วหันกลับไปยังชายหนุ่มในชุดลำลองดูดีลากกระเป๋าใบย่อมเดินตรงเข้ามา หันสลับไปสลับมาสองครั้งจนชายหนุ่มแปลกหน้าที่มีใบหน้าเหมือนอติรุจไม่ผิดเพี้ยนเข้ามายืนประจันหน้า
“หวัดดีพี่รุจ......”  เขากล่าวเสียงกังวาน
“อืมมม...กระเป๋ามีแค่นี้ใช่ไหม”  อติรุจตอบถามสั้น ๆ  วกมือปัดก้องภพที่คอยสะกิด
“พี่รุจ ๆๆๆ” 
“อะไรวะไอ้ว่าน”  อติรุจอดไม่ได้ต้องหันมาดุก้องภพ แต่เมื่อเห็นก้องภพบุ้ยหน้าไปยังชายหนุ่มแปลกหน้า อติรุจก็นึกได้
“เอ่ออ...นี่น้องชายกูเอง..ชื่อปวรุจ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าแสนก็ได้” เขาบอกปราการกับก้องภพ
“หวัดดีครับ...ผมปราการหรือชัช ไม่ยักรู้ว่าไอ้รุจมีน้องชายฝาแฝด”  ปราการยื่นมือแสดงความเป็นมิตร แต่ยังไม่ทันกระชับมือแสนก็ร้องตกตะลึง
“ไอ้ก้องภพ” 
“ครับ...ผมก้องภพครับ หรือพี่แสนจะเรียกว่านก็ได้”  ก้องภพยกมือสวัสดีแทนที่จะยื่นมือออกให้สัมผัสเพราะรู้ว่าตัวเองเด็กกว่า ไม่ทันคิดว่าทำไมน้องชายพี่รุจถึงรู้จักชื่อเขา  แสนรับไหว้อย่างงง ๆ ก่อนจะกระชับมือปราการ  นึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าจะเจอเรื่องประหลาด ก็ก้องภพนายตำรวจคนนี้ทั้งชื่อทั้งหน้าเหมือนก้องภพที่เป็นลูกน้องเขาสมัยเรียนมหาลัยราวกับคน ๆ เดียวกัน  และแล้วทั้งสองก็ได้รู้เรื่องทั้งหมดว่าอติรุจมีพี่น้องฝาแฝดที่พ่อกับแม่เลิกกันและเอาลูกไปเลี้ยงคนละคน ด้วยทิฐิของพ่อกับแม่ทำให้พี่น้องเกิดความเหินห่าง โดยเฉพาะแสนที่รับรู้จากพ่อว่าแม่เสียชีวิตหลังจากครั้งสุดท้ายที่เจอกันก็ยิ่งทำให้ความทรงจำระหว่างแม่และพี่ชายเลือนราง  ส่วนรุจที่เห็นใจรักแม่รับรู้เรื่องราวทุกอย่างก็พาลเกลียดพ่อ  ความเป็นไปของพ่อและน้องเขารู้น้อยมาก รู้แค่แสนเรียนวิศวะในมหาลัยชื่อดังแต่ก็ไม่เคยไปมาหาสู่ยิ่งแสนไปเรียนต่อเมืองนอกกอปรกับแม่เสียชีวิตก็ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องแทบไม่มี รู้แค่ว่าหน้าเหมือนกันเท่านั้น ความผูกพันใด ๆ ไม่มีเลย จะว่าไปก้องภพกับปราการยังรู้ใจเขามากกว่าน้องแท้ ๆ ด้วยซ้ำ  แม้แสนจะเดินทางกลับไทยทุกปีแต่ก็ไม่เคยไปมาหาสู่ แต่ครั้งนี้เป็นคำขอสุดท้ายของแม่ที่อยากให้พี่น้องเจอกัน เขาถึงได้มารอรับถึงสนามบิน
“น้องชายชื่อแสน แล้วพี่ชายชื่อล้านหรือเปล่าเนี่ย”  ก้องภพพูดขำหันไปทำหน้าล้ออติรุจ กุลีกุจอช่วยแสนลากกระเป๋ารู้สึกดีกับพี่แสนคนนี้อย่างประหลาด  อติรุจถลึงตาใส่น้องว่านตัวแสบเหมือนกับบอกว่าพูดให้น้อย ๆ หน่อย แต่ก้องภพก็คือก้องภพยิ่งแหย่พี่ชายสุดหล่อ
“หัวไม่ล้านซะหน่อย หงุดหงิดไปได้พี่หล่อ”  แสนที่ยืนฟังอมยิ้มอดไม่ได้ตอบว่า
“พี่รุจชื่อเล่นพี่หมื่น..คล้องกับผมที่ชื่อแสน”  ก้องภพทำตาโตอีกครั้ง
“โห..พี่หมื่นแล้วแม่หญิงการะเกดอยู่ไหนละเนี่ย”  ว่าแล้วทั้งหมดก็หัวเราะขำ แม้กระทั่งอติรุจก็อดยิ้มไม่ได้ ซึ่งทำให้บรรยากาศผ่อนคลายลงไปมากโขทีเดียว......................




วันนี้อติรุจกับปราการและก้องภพมาดูแลความเรียบร้อยเพราะผู้การเพลงรบจะออกจากโรงพยาบาล เมื่อจัดการเรียบร้อยแล้วก็กลับไปยังตึกบัญชาการ ทันทีที่ถึงปราการก็ประหลาดใจและดีใจที่ได้พบกับคังยูเพื่อนเกาหลีสมัยที่ไปฝึกภาคสนามที่นั่น ไม่นึกว่าคังยูจะกลายเป็นหนึ่งในสายลับของกษัตริย์วาดิมด้วย
“เฮ้..นายชัช....ดีใจมากเลยที่เจอ”  คังยูหนุ่มร่างสูงแข็งแรงหน้าหล่อสไตล์กิมจิจับมือปราการก่อนจะโอบกอด
“ไม่ได้เจอนาน นายดูดีมาก”  หนุ่มเกาหลีถอยห่างพิจารณามองดูปราการที่ยังคงไว้หนวดน้อย ๆ คมเข้ม ตาเป็นประกายก่อนจะชกท้องแข็งแกร่งเบา ๆ เย้าเล่น พลางเหลียวมองอติรุจจ้องนานจนก้องภพจงใจแทรกตัวเข้ามายื่นมือให้
“ผมก้องภพครับ...เป็นน้องพี่ชัช”  คังยูเลิกคิ้วสูงไม่จับมือแต่ยื่นมือให้อติรุจจับแทน ก้องภพหน้าแดงก่ำที่โดนหยามยืนตัวสั่นมองไอ้หนุ่มเกาหลีจับมือพี่รุจของเขานานเกินความจำเป็น และก่อนที่ก้องภพจะระเบิดด้วยความหมั่นไส้ ปราการเห็นท่าไม่ดีก็ชิงดึงตัวก้องภพออกทำให้กระประลองมวยไทยกับเทควันโด้ไม่เกิดขึ้น.......................
“ไอ้คังย้วยแม่งต้องเป็นตุ๊ดแหง ๆ เลยพี่ชัช....ไปเป็นเพื่อนกับมันได้ไง”  ก้องภพระเบิดอารมณ์ที่อัดอั้นใส่ปราการ
“ไม่เป็นหรอก...สมัยก่อนเที่ยวกันจนไม่มีซ่องจะให้เที่ยว”  ปราการบอกขำ ๆ
“แต่ผมว่าแม่งตุ๊ดแน่ ๆ ดูมันมองพี่รุจดิตางี้ฉ่ำ...อื๊ออออ..ขนลุกกก....พี่ชัชระวังเหอะ...โดนขึ้นมาจะหาว่าหล่อไม่เตือน ฮ่า ๆๆๆ”  ก้องภพพูดไปทำตัวสั่นเหมือนขนลุกจริง ๆ พลางยื่นมือหลอกจะจับเป้าปราการแต่ถูกปราการที่ไวกว่าคว้าเป้ากางเกงได้ก่อน
“ฮ่า ๆๆ..กระดูกคนละเบอร์ไอ้น้อง”  ปราการหัวเราะขยำควยก้องภพเบา ๆ
“โอ๊ยยย..พี่รุจดูพี่ชัชดิ”  ก้องภพตัวงอสะบัดหลุด ทำหน้าเศร้าเงยหน้าฟ้องอติรุจที่ยืนส่ายหัวขำให้เพื่อนที่เล่นกันเหมือนเด็ก ๆ  ทว่าคำพูดของก้องภพก็ทำเอาปราการเสียววาบเหมือนกัน โดยเฉพาะตูดนั้นเย็นวูบอดคิดถึงอาจารย์ติ๊ดตี่ที่เกือบล่อตูดเขาสำเร็จไม่ได้ แต่พอคิดถึงคังยูก็สั่นหัวเพราะดูยังไงก็ดูไม่ออกว่าคังยูจะเป็นอย่างที่ไอ้ว่านมันว่า..........................
ดึกแล้ว คังยูประคองปราการออกจากผับเป็นคนสุดท้าย การได้มาดื่มเหล้ากันสองต่อสองแม้จะต่างสถานที่แต่ความทรงจำเก่า ๆ กลับเด่นชัดในความรู้สึกของหนุ่มเกาหลี เขามองตำรวจไทยหล่อคมเข้มในอ้อมกอดตาวาววามยิ้มมุมปาก พอขึ้นรถได้  เท้าก็เหยียบคันเร่งมิดไมล์จนรถพุ่งทะยานเกินความเร็วที่กฎหมายกำหนดแต่ก็ยังไม่ทันกับใจที่โบยบินไปก่อนแล้วจนไกลแสนไกล........ บนเตียงนอนหนานุ่ม ปราการนายตำรวจไทยมาดเข้มนอนหมดสติจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ เสื้อเชิ๊ตถูกปลดกระดุมจนหมดแหวะกว้างเผยหน้าอกนูนแน่นน่ามองด้วยขนดำไล่เรียงเป็นแถวก่อนจะไปดกฟูตรงขอบกางเกงในที่ตอนนี้คังยูกำลังรูดออกจนหมอยกระจุกใหญ่โผล่เป็นกำแพงสีดำทะมึนรายล้อมดุ้นแห่งชายชาติที่กำลังถูกรูดเช่นกัน  หนังหุ้มปลายที่ถูกรั้งจนสุดโชว์หัวกระจังบานสวยเงางามด้วยน้ำเมือกเหนียวใสสะท้อนแววตาหื่นของหนุ่มกิมจิที่แลบลิ้นปากหิวกระหาย  หัวควยสีชมพูเข้มโผล่พรวด ๆ ผ่านหนังควยที่เปิดกว้างผลุบ ๆ โผล่ ๆ ตามแรงถอกที่เร่งระดับเรื่อย ๆ จนควยทั้งดุ้นเริ่มขยายตัวปลายหัวถอกผงกงึก ๆ ตามแรงกระตุกของเส้นสองสลึงที่รั้งจนตึงเป๊ะ คังยูยิ้มโน้มหน้าใกล้จนได้กลิ่นสาบที่ควยที่เหมือนกันทุกเชื้อชาติก่อนจะแลบลิ้นแตะไปที่หัวควยบานนั้นอย่างแผ่วเบา
“อื๊ออออสส์”  ปราการครางเบา ๆ เอวกระดกเกร็งโดยอัตโนมัติทั้งที่ตายังปิดอยู่ มุมลึก ๆ มุมหนึ่งในสมองบอกตัวเองว่าจุ๊บกำลังโลมเลียหัวควยเขาอย่างมีความสุข ท่อนลำขนาดใหญ่มุดเข้าปากเล็กจนร่องปากขยายกว้างไม่เห็นเป็นรอยหยักของริมฝีปาก แต่กระนั้นจุ๊บก็ไม่หวั่นกลับโขยกหัวอ้าอมดุ้นเนื้อเหม็นคาวจนปลายควยตำคอกึก ๆ ก่อนจะคายออกแล้วขย้อนอมเข้าไปใหม่และก่อนที่จะสุดก็ยังอุตส่าห์เอาลิ้นตวัดเลียหัวถอกจนเขาสะดุ้งโหยง
“อูยยยย...ซี้ดดดดสส์...เสียยยยววว..ดีๆๆๆ..ซี้ดดดสส์”  เสียงครางดังทำให้คังยูที่เงี่ยนอยู่แล้วยิ่งเงี่ยนหนักใช้มือกำท่อนควยใหญ่จนหัวควยแดงก่ำ เกร็งลิ้นฉกตรงรอยสองสลึงรัว ๆ สลับกับเลียลำที่ปูดโปนด้วยเส้นเลือดเขียวเข้มขึ้น ๆ ลง ๆ ก่อนจะจบลงที่ปลายถอกใช้ลิ้นเลียวนถี่ ๆ จนปราการที่กำลังเคลิ้มแอ่นเอวตาม แต่พอหมดสภาวะเสียวร่างกำยำก็ผ่อนคลายแนบแผ่นหลังกับที่นอนตามเดิม วนเวียนอย่างนี้หลายต่อหลายครั้งจนน้ำเมือกหล่อลื่นออกมาเต็มหัวควย รูควยบานเพยิบพะยาบราวกับกำลังส่งยิ้มให้คังยูเพื่อนสายลับ คังยูก็ไม่รอช้ารีบฉกฉวยโอกาสทองซุกหน้าพลิกกระโปกยานใหญ่ตะแคงหน้าไล่เลียหนังกระโปกยับย่นจนมันแผล็บ ส่วนนิ้วมือก็แหวกขนตูดดกดำควานหาปากถ้ำที่ปรารถนามาตลอด แต่ด้วยความรกทำให้คังยูรู้สึกรำคาญอดกระตุกขนตูดจนหลุดติดมือไม่ได้ เส้นเดียวสองเส้นก็ไม่เป็นไร แต่เมื่อถูกรวบดึงเป็นกระจุกปราการที่กำลังเคลิบเคลิ้มก็ถึงกับสะดุ้งขมิบตูดอย่างรวดเร็วตามสัญชาติญาณ พอลืมตาเห็นว่าอะไรเป็นอะไรก็ร้องลั่น
“เฮ้ยยย...อะไรวะ”  เขาดิ้นรนแต่เรี่ยวแรงที่หายไปกับฤทธิ์เหล้าทำให้ถูกคังยูที่แข็งแรงราวกระทิงหนุ่มยกตัวทับใช้มืออุดปากไว้
“จุ๊ ๆๆๆๆ.....อย่าดิ้นนะรูปหล่อถ้าไม่อยากเป็นข่าว....อีกอย่างนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรก”  คังยูยิ้มด้วยตาบอกเล่าเหตุการณ์ตอนอยู่เกาหลีว่าปราการโดนเขาดูดควยจนน้ำแตกนับครั้งไม่ถ้วน หนำซ้ำยังเอาคลิปวีดีโอที่ถ่ายไว้ให้ดูด้วย  ปราการสูดลมหายใจด้วยความหนาวเหน็บคาดไม่ถึงจริง ๆ ว่าจะโดนอย่างที่ก้องภพว่า หัวสมองลั่นอึงอลคิดอะไรไม่ออก
“นายก็รู้ว่าผมไม่ชอบบังคับ  ถ้าไม่พร้อมผมก็ไม่ว่า แต่ขอทำต่อให้นายน้ำแตกได้ไหม”  คังยูพลันเสนอทางออกให้ วนนิ้วรอบ ๆ รูตูดรกขนเป็นการบอกถึงเรื่องไม่พร้อมที่ว่า  ปราการไม่มีทางเลือกจำต้องผงกหัวช้า ๆ แสดงความยินยอม เขารู้จักไอ้เกาหลีนี่ดี  ถึงแม้จะดิ้นรนหลุดรอดไปได้แต่ชีวิตนี้อย่าหวังอยู่อย่างสงบสุข ไม่ว่าอะไรที่มีในมือรับรองได้ถูกเอามาข่มขู่ไม่รู้จักจบสิ้นแน่ ๆ  นึกภาพตัวเองไม่ออกเลยว่าถ้าคลิปโดนมันดูดควยจนน้ำแตกหลุดออกไปจะเป็นยังไง พลันคังยูก็ยกมือที่อุดปากออก เปลี่ยนเป็นรวบสองแขนหนุ่มไทยยกขึ้นราวกับยอมแพ้ ปราการระบายลมหายใจยาวหลับตาปี๋ทำใจไม่ได้ที่จะเห็นตัวเองโดนผู้ชายด้วยกันปรนเปรอความเสียวให้ แต่แม้จะหลับตาก็รับรู้ได้ว่าคังยูซุกหน้าไซร้ไปที่รักแร้กดจมูกโด่งสูดกลิ่นเหงื่อชายแท้ฟืดฟาด ๆ จนขนดกกระจุยกระจาย ค่อย ๆ เลื่อนต่ำไปยังหัวนมใช้ลิ้นม้วนตวัดเลียหัวนมจนตั้งเด่ แล้วเลื้อยหน้าต่ำไปยังกลุ่มหมอยลากลิ้นเลียเบา ๆ ก่อนจะอ้าอมดุ้นควยแข็งกร้าวโขยกหัวขึ้นลง ๆๆๆๆ เร็วขึ้น ๆๆๆ  จนปราการเสียวซี้ดดดสส์แอ่นเอวตามจนตูดไม่ติดที่นอน กัดฟันแน่นตัวเกร็งเสียวท้องน้อยวูบกลั้นเสียงครางไม่อยู่จริง ๆ
“อื๊อออออสส์...ซี้ดดดสส์”  เท่านั้นเองน้ำเงี่ยนมากมายก็พุ่งกระฉูดใส่ปากเร่าร้อนของคังยูจนหมดสิ้น ท่ามกลางเสียงหอบหายใจหนัก ๆ ปราการพลันลืมตาตื่นเมื่อมีอะไรบางอย่างหล่นตุ๊บบนหน้าอก กระพริบตาถี่ ๆ โทรศัพท์ที่มีคลิปน่าอายนั่นเอง
“ดีลีทคลิปพวกนั้นได้เลย  และครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายระหว่างเรา”  ปราการงุนงง แต่ก็ฉวยโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว แทบกระโดดด้วยความดีใจรีบกดลบคลิปอุบาทว์พวกนั้นอย่างรวดเร็ว ในใจก็นึกสงสัยเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็คงจะไม่สงสัยแน่ถ้ารู้ใจสายลับเกาหลีคนนี้ดี เพราะตอนนี้หัวใจทั้งสี่ห้องของคังยูมีแต่หน้าสุดหล่ออติรุจเท่านั้น...........................

เรื่องเสียวสไตล์ BBrock

สามสิงห์สยบไพรี ตอนที่ 20